“ราชาเฟอร์รี่”ลุยสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวยแล้วเสร็จปี65

03 ส.ค. 2564 | 07:22 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ส.ค. 2564 | 14:33 น.

บอร์ดราชาเฟอร์รี่ ไฟเขียวงานก่อสร้างลุยสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวย คาดแล้วเสร็จปลายปี65 พร้อมศึกษาการออก Token Utility สร้างผลตอบแทนในอนาคต

บอร์ดท่าเรือราชาเฟอร์รี่ อนุมัติงานก่อสร้าง เดินหน้าก่อสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวย คาดแล้วเสร็จปลายปี 2565 ชูจุดเด่นการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม-ต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นได้ พร้อมศึกษาการออก Token Utility พร้อมใช้ ขยายฐานลูกค้า เพิ่มขีดแข่งขันและโอกาสสร้างผลตอบแทนในอนาคต

 

นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ซึ่งเป็นการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรการด้านความปลอดภัยภายใต้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเห็นชอบอนุมัติการก่อสร้างโครงการท่าเทียบเรือเฟอร์รี่เกาะพะลวย

อภิชาติ ชโยภาส

โดยว่าจ้างบริษัท เดอะซีบอร์ด ดี แอนด์ ซี จำกัด  เป็นผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวย จำนวน 2 ท่าเทียบ จะเริ่มเดินหน้าก่อสร้างได้ช่วงไตรมาส4 ปีนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2565

“เชื่อว่าการก่อสร้างท่าเรือเกาะพะลวยจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับบริษัท เนื่องจากเกาะพะลวยเป็นหมู่เกาะที่อยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักดี

เกาะพะลวย

ปกติจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาปีละไม่ต่ำกว่า 5-6 แสนคน และเกาะพะลวยยังเป็นเกาะพลังงานต้นแบบที่สามารถต่อยอดไปธุรกิจอื่นๆ ได้ มีลักษณะคล้ายกับเกาะพะงันเมื่อก่อน” นายอภิชาติ กล่าว

                                                         

สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเรือเกาะพะลวยขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส 2 ท่าเทียบ ได้ทำการเปิดยื่นซองประมูลไปก่อนหน้านี้ และล่าสุดบอร์ดบริษัทได้อนุมัติว่าจ้างให้บริษัท เดอะซีบอร์ด ดี แอนด์ ซี จำกัด เป็นผู้รับเหมาในการดำเนินการก่อสร้าง คาดใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 14 เดือน หรือจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2565 

การลงทุนก่อสร้างท่าเรือเกาะพะลวยเพิ่ม หลังจากสร้างท่าเทียบเรือ 2 ท่า ที่ท่าเรือดอนสัก (ท่า4-5) ในภาวะที่ธุรกิจมีความท้าทายจากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ เป็นการตัดสินใจที่ถูกทาง

 

เพราะนำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้  ยังได้พิจารณาอย่างรอบคอบ รอบด้านและรัดกุม ภายใต้ความเสี่ยงที่นำมาพิจารณาอย่างเข้มงวดแล้ว

                                                                               ขณะเดียวกันก็ได้มีการแจ้งในที่ประชุมว่า บริษัทฯ กำลังศึกษาเรื่องของการทำสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ในรูปของการรับชำระค่าบริการเป็นเงินสกุลดิจิทัล (Crypto Currency) และ  Token Utility แบบพร้อมใช้ 

 

เพื่อรองรับกระแสสังคมไร้เงินสด และยังเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ  อีกทั้งยังเป็นเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคตอันใกล้