ด่วน"ภูเก็ต"ขยายมาตรการห้ามคนเข้า-ออกพื้นที่ยกเว้น16กลุ่มออกไปอีก14วัน

14 ส.ค. 2564 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2564 | 22:25 น.

ผู้ว่าภูเก็ตออกคำสั่งขยายมาตรการห้ามบุคคล-ผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าภูเก็ตทั้งทางบก ทางน้ำ และช่องทางภายในประเทศทางอากาศยกเว้น16กลุ่ม ออกไปอีก14วันตั้งแต่17-31ส.ค.นี้ พร้อมยกมาตรการคุมแรงงานต่างด้าว-แรงงานประมง สกัดโควิด

วันนี้(14สิงหาคม2564) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต เรื่อง มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ขยายมาตรการจากวันที่3-16ส.ค.64 ออกไปอีก14วัน เป็นตั้งแต่วันที่17-31ส.ค.64

 

ทั้งมีการผ่อนผันการห้ามการเดินทางเข้า-ออกภูเก็ต จากเดิมยกเว้น12กลุ่มเพิ่มมาเป็น16กลุ่ม

ณรงค์ วุ่นซิ้ว

โดยประกาศล่าสุดระบุว่าความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 14สิงหาคม 2564 จึงกำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังต่อไปนี้

 

1.ห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท ยกเว้น เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ ทุกท่า) ในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานภูเก็ต)

 

เว้นแต่เป็นบุคคล หรือผู้ขับขี่ยานพาหนะ ดังต่อไปนี้

 

  • รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยถูกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย
  • ขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์
  • ขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ หรือการขนส่งที่จำเป็นอื่น ๆ ต่อการดำรงชีพ
  • ขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง
  • ขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน
  • ขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์
  • ขนส่งวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร และอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุง
  • ผู้ขนส่งสินค้าทางเรือ เพื่อนำเข้า - ส่งออกสินค้า ณ ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต , ท่าเรือคลังน้ำมัน ปตท.ภูเก็ต และพื้นที่ขนถ่ายสินค้าอื่น ๆ
  •  ขนส่งเครื่องมืออุปกรณ์ วัสดุ วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ชิ้นส่วนประกอบซ่อมบำรุงพื้นฐานด้านโทรคมนาคม หลังงาน ยานยนต์ อากาศยาน และการอุตสาหกรรมอื่นๆ
  • ผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นการประจำ (มีเอกสารยืนยัน)
  • ผู้เดินทางมาตามโครงการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ภูเก็ตแซนต์บ็อกซ์ และผู้ขับขี่ยานพาหนะ (มีเอกสารยืนยัน)
  • ผู้ที่ได้รับคำสั่งหรือมีหนังสือมอบหมายจากต้นสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ในด้านการป้องกันและควบคุมโรคในจังหวัดภูเก็ต
  • ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้ไปหรือมาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
  • ผู้มีความจำเป็นในการเดินทางออกทางช่องทางระหว่างประเทศ ทำอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (ต้องมีตั๋วโดยสาร ของวันที่เดินทางเท่านั้น)
  • ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานอัยการ หรือพนักงาน สอบสวน ซึ่งต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนว่าหากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง หรือมีนัดหมายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ มีฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่คู่กรณีหรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
  • กรณีผู้มีเหตุจำเป็นอื่น ๆ ที่ไม่สามารถเลื่อนกำหนดนัดหมายได้ หรือกรณีอื่นใดซึ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องวินิจชัยสั่งการ ให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำด่านตรวจเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาเป็นรายกรณี

ด่วน\"ภูเก็ต\"ขยายมาตรการห้ามคนเข้า-ออกพื้นที่ยกเว้น16กลุ่มออกไปอีก14วัน

โดยผู้ได้รับการยกเว้นตามกรณีดังกล่าวข้างต้น ต้องได้รับวัคชีนป้องกันโรคโควิด - 19 มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14วัน หรือเป็น ผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด - 19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธีการRT - POR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดฎเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง

 

2. เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปี จนถึงผู้มีอายุต่ำกว่า 18ปี ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีน ต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง

 

3.กรณี นักเรียนนักศึกษาอายุไม่ถึง18ปี ที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิค - 19ได้และมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านเข้า - ออกจังหวัดภูเก็ตเพื่อการเรียนการศึกษา ให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาหรือศึกษาธิการจังหวัดออกบัตรประจำตัวเป็นรูปแบบเดียวกัน

 

แสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทาง ผ่านเข้า - ออกจังหวัดภูเก็ต และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตทำการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธีการRT - PCR และออกใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ให้มีผลใช้ใด้ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน

 

4. กรณีผู้มีนัดหมายฉีควัดซีนโควิด - 19 เข็ม 2 (ต้องมีใบนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ที่จังหวัดภูเก็ต)และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง

 

5.ต้องลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตถ่วงหน้า และแสดงคิวอาร์โค้ด (QR Code) ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก่อนเข้าจังหวัดภูเก็ต

 

6. การใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทาง ผ่านทางด่านตรวจท่าฉัตรไชยห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ระหว่างเวลา 23.00นาฬิกา ถึงเวลา04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น ยกเว้นเมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรง หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ

 

ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติคต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าช่ายเป็นการฝ้าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ด้วย

ด่วน\"ภูเก็ต\"ขยายมาตรการห้ามคนเข้า-ออกพื้นที่ยกเว้น16กลุ่มออกไปอีก14วัน ด่วน\"ภูเก็ต\"ขยายมาตรการห้ามคนเข้า-ออกพื้นที่ยกเว้น16กลุ่มออกไปอีก14วัน ด่วน\"ภูเก็ต\"ขยายมาตรการห้ามคนเข้า-ออกพื้นที่ยกเว้น16กลุ่มออกไปอีก14วัน

 

 

 

นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 48/2564 ได้มีการพิจารณาต่ออายุและปรับมาตรการยกระดับคุมโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ตตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตก่อนหน้า ที่จะหมดลงในวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ต่อไปอีก 14 วัน เป็นตั้งแต่วันที่ 17-30 สิงหาคม 2564 และจะประกาศใช้มาตรการใหม่เพิ่มเติมด้วย โดยสาระสำคัญองค์ประกอบหลักยังเป็นเหมือนเดิม แต่มีการปรับเพิ่มเติมบ้าง โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

ปิยพงศ์ ชูวงศ์

1. มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 องค์ประกอบหลักของมาตรการยังคงเดิม คือ ห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่า ในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) เว้นแต่เป็นบุคคล หรือผู้ขับขี่ยานพาหนะใน16กลุ่ม เพิ่มจากเดิมกำหนดไว้12กลุ่ม

 

แต่มีการปรับรายละเอียด ข้อยกเว้น เพิ่มเติม ชี้แจงเฉพาะที่สำคัญ คือ ผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เป็นประจำ ได้รับการยกเว้น บนเงื่อนไขต้องฉีดวัคซีน และตรวจหาเชื้อ ต้องดำเนินการมาภายใน 72 ชั่วโมง ด้วยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Rapid Test

 

สำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานในภูเก็ต ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเป็นสิ่งยืนยันที่หน้าด่านทางบก

 

ทั้งยังมีข้อยกเว้นเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวในกับ โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ Phuket Sandbox ถ้าอยู่ในภูเก็ตจนครบ14 คืน มีสิทธิออกไปจังหวัดอื่นๆ เมื่อออกไปแล้วจะกลับเข้ามาภูเก็ตอีกนั้น

 

ทางจังหวัดอนุญาตให้เข้ามาได้ โดยให้แสดงหลักฐานการเป็นนักท่องเที่ยวจาก Sandbox

 

2.มาตรการปิดสถานที่เสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ยังใช้สาระสำคัญเดิม ที่ศบค.กำหนดกรอบไว้อยู่แล้ว และยังคงเน้นย้ำ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารเช่นเดิม

 

3. มาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ผ่านมา พบว่า ยังมีการระบาดในกลุ่มนี้จำนวนมาก การควบคุมจึงมีมาตรการเฉพาะออกมาอีก 2 ฉบับ

สาระสำคัญ คือ แรงงานต่างด้าวที่เป็นแรงงานทั่วไป มีสาระสำคัญอยู่ข้อหนึ่งที่ให้นายอำเภอเป็นผู้ที่มีอำนาจในการวินิจฉัยสั่งการต่าง ๆ ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34ให้ นายอำเภอเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่มีอำนาจสั่งการ เช่น ให้มีการควบคุมดูแลแรงงานในแคมป์ ควบคุมสุขอนามัย

 

รวมถึงมีอำนาจสั่งปิดแคมป์คนงานที่มีการระบาดมากหรือดูแลที่ไม่ถูกสุขลักษณะตามBubble & Seal ที่ สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้วางมาตรการไว้นั้น นายอำเภอ สามารถตัดสินใจไดัทันที ไม่ต้องนำมาเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เป็นต้น

 

4.มาตรการควบคุมแรงงานประมงของเรือประมงพาณิชย์ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สาระสำคัญ คือ เรือประมงมีกฎห้ามเข้าออกนอกบริเวณท่าเทียบเรือ เว้นแต่ เรือประมงที่ออกไปทำการประมง แรงงานประมงที่มากับเรือพาณิชย์นั้นต้องพักอาศัยอยู่บนเรือ ขึ้นมาพักบนบกไม่ได้

 

ส่วนผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ถูกกักตัวในเรือ ให้ใช้เรือเป็นระบบ Bubble &Seal เช่นเดียวกับระบบของแคมป์คนงาน ที่มี Camp Manager และให้มีผู้จัดการเรือประมง หรือ Vessel Manager โดย ประมงจังหวัดจะเข้าไปควบคุมกำกับ