นางอุนารินทร์ กิจไพบูลทวี ผู้ก่อตั้งบริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจุบันบริษัทได้ร่วมพัฒนานวัตกรรมการปลูกกัญชงคุณภาพครบวงจร กับ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยวิจัยพัฒนานวัตกรรมการปลูกที่ตอบโจทย์การปลูกกัญชง-กัญชาได้ทุกสายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์ในประเทศและสายพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ให้มีผลผลิตสูงและมีสารสำคัญคือ CBD ที่สูงตามไปด้วย สามารถควบคุมปัจจัยการผลิตได้ครบทุกด้าน ทั้งแสงสว่าง อุณหภูมิ ความชื้น การให้น้ำให้ปุ๋ย และระบบการไล่แมลงศัตรูพืช
เป็นระบบปลูกเคลื่อนที่ที่สามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ทุกสภาพอากาศ ควบคุมด้วยระบบ “เกษตรอัจฉริยะ” สามารถกำหนดและควบคุมปัจจัยในการปลูกกัญชง-กัญชาได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อสร้างให้เกษตรกรรมสู่เกษตรเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง
“ที่เริ่มสนใจในธุรกิจกัญชงเพราะมองเห็นถึงคุณประโยชน์ของสารออกฤทธิ์สำคัญที่ชื่อว่า CBD (Cannabidiol) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสำคัญที่มีประโยชน์ต่อทั้งคนและสัตว์ สามารถใช้เป็นส่วนผสมในอาหารเสริม อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และยารักษาโรค สาร CBD ในกัญชงและกัญชาได้รับการยอมรับจากนานาชาติและมีงานวิจัยต่างๆ มากมายรองรับ ช่วยในเรื่องความผ่อนคลาย ช่วยให้หลับสบาย ฟื้นฟูและดูแลร่างกายได้เป็นอย่างดี
เราจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนากัญชงที่มีสาร CBD สูงสุด เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพและเศรษฐกิจ ปัจจุบันเรามีพันธมิตรที่พร้อมซื้อวัตถุดิบคุณภาพแบบไม่อั้นทั้ง บริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด และ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี จำกัด ที่ทำโรงงานสกัดและผลิตอาหารเสริมแบบ OEM
ในขณะนี้ บริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด ได้สร้าง “CBD Agro-Tech Center” บนพื้นที่กว่า 36 ไร่ โรงเรือน Green House สำหรับปลูกกัญชงใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พื้นที่ 9,000 ตร.ม. โดยใช้เทคโนโลยีการปลูก “เกษตรอัจฉริยะ” ที่สามารถควบคุมแสง อากาศ อุณหภูมิ ความชื้น ปุ๋ย น้ำ พร้อมทั้งระบบไล่แมลงแบบครบวงจร ที่สามารถปลูกกัญชงและกัญชาได้ตลอดทั้งปี 500,000 ต้น โดย “CBD Agro-Tech Center” แห่งนี้จะเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบปลูกกัญชงและกัญชาให้ได้สารสำคัญคือ CBD สูง แบบครบวงจร
พร้อมเปิดให้บุคคลที่สนใจธุรกิจกัญชงเพื่อเศรษฐกิจเข้าชม และร่วมจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันสร้างตลาดกัญชงและกัญชาที่เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป