นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 สามารถฟื้นตัวอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยมีรายได้รวม 1,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลับมาทำกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) 84 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ที่ผ่านมาที่ฟื้นตัวได้ดีมาจากบริษัทฯ ปรับแผนการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 โดยเปิดให้บริการตรวจคัดกรองหาเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้น ดำเนินการปรับหอผู้ป่วยใน (วอร์ดผู้ป่วยใน) ทั้งหมดของโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง รองรับการดูแลรักษาคนไข้ COVID-19 เต็มรูปแบบ จากเดิมที่จับกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางมารักษาโรคเฉพาะทางเป็นหลัก
และในขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับโรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท (อโศก) และโรงแรมไอบิส กรุงเทพฯ
อิมแพ็ค จัดตั้งฮอสพิเทล (Hospitel) หรือหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ เพื่อดูแลรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ส่วน โรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมียนมา แม้รับรู้ผลขาดทุนเนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลโดยรวมมีทิศทางที่เติบโตได้ดี
สำหรับการดำเนินในช่วงครึ่งปีหลัง จะมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการดูแลรักษาคนไข้ COVID-19 เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนโรงพยาบาลในเครือที่ขยายเพิ่มเตียงรับผู้ป่วยรวมเป็นกว่า 200 เตียง และเพิ่มบริการดูแลคนไข้ช่วงพักฟื้นหลัง COVID-19
อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยอาการปานกลางถึงรุนแรง 3 แห่ง ดูแลคนไข้ที่ส่งจากภาครัฐ รวมกว่า 400 เตียง และร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงแรม ให้บริการฮอสพิเทลอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 2,000 เตียง รวมถึงร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือ THG ที่เปิดรับจองวัคซีนทางเลือก เพื่อเตรียมฉีดให้แก่ประชาชน
“จากสถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ที่มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประธานกรรมการบริษัทฯ (น.พ.บุญ วนาสิน) ได้ถ่ายทอดเจตนารมณ์และความจริงใจให้ทีมงาน THG ได้ช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งเปิดรับตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง ขยายการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลและในฮอสพิเทล ร่วมลงทุนและส่งบุคลากรทางการแพทย์ มุ่งทำ ICU สนามให้กับภาครัฐ
และมีส่วนช่วยจัดตั้งหน่วยฉีดวัคซีนรัฐบาลเพื่อกระจายให้ถึงประชาชนหมู่มาก และเรายังจัดหาวัคซีนทางเลือก ซึ่งจะสามารถช่วยเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และร่วมยับยั้งการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในครั้งนี้”