นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการของนกแอร์ว่าตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท ") ฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผนตามที่บริษัทเสนอเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต่อมาบริษัทได้นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 และคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564
โดยแผนและคำร้องขอแก้ไขแผนดังกล่าวได้รับการยอมรับจากเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันในสัดส่วนร้อยละ 76.72 ของจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมและออกเสียงในการประชุมเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 ศาลส้มละลายกลางได้นัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมีเจ้าหนี้ยื่นคำร้องคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการและศาลรับไว้เพื่อพิจารณาจำนวน 7 ฉบับ ศาลล้มละลายกลางได้ให้โอกาสผู้ทำแผนและเจ้าหนี้ในการเจรจาเกี่ยวกับประเด็นข้อคัดค้าน และกำหนดนัดฟังคำสั่งศาลเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 6 กันยายน 2564 หากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนจะทำให้บริษัทสามารถดำเนินกระบวนการฟื้นฟูกิจการตามแผนต่อไปได้
สำหรับเจ้าหนี้ที่ยื่นคัดค้าน7ราย โดยเจ้าหนี้ที่มาศาล 2 รายแรกคือธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารกรุงเทพ เป็นเจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีหลักประกัน ตอนที่นกสกู๊ตปิดกิจการ ทางนกแอร์จึงต้องใช้หนี้ที่นกแอร์ได้นำเงินสดค้ำประกันการกู้เงิน ส่วนประเด็นที่ยังเจรจากันอยู่คือ ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่แล้วถึงปัจจุบันจะคิดอัตราใด เพราะนกแอร์ได้วางเงินสดเพื่อค้ำประกันในบัญชีของธนาคารไว้ ไม่ได้มีเหตุผลไม่จ่ายแต่เนื่องจากกระบวนการแผนฟื้นฟูนั้นจะยังจ่ายไม่ได้จนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ทำแผน
รวมถึงที่มาศาลอีก 2 รายเป็นเจ้าหนี้ผู้ให้เช่าเครื่องบิน ที่ยังตกลงราคาค่าเช่า และเงื่อนไขของสัญญาใหม่ไม่ได้ครับเนื่องจากทางนกแอร์มองว่าเงื่อนไขนั้นไม่สามารถทำให้นกแอร์สามารถแข่งขันในตลาดได้ (สัญญาเริ่มทำในอดีต)
ส่วนรายอื่นๆนั้น บางรายเจ้าหนี้ค่าบัตรโดยสาร 2000บาท ซึ่งทางนกแอร์ยืนยันจะจ่ายคืนให้ เมื่อศาลอนุมัติให้จ่าย ก่อนหน้านี้นกแอร์ทำหนังสือขออนุมัติจ่ายแต่ศาลยังไม่อนุญาตเนื่องจากอาจทำให้เจ้าหนี้รายอื่นๆเสียหายได้ ทำไมจ่ายรายนี้แต่รายนี้ไม่จ่ายเป็นต้น