นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ TKN เตรียมผลักดัน บริษัท เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์ แฟรนไชส์ จำกัด หรือ TKNRF ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ TKN ในการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ร้านอาหาร
ขยายแฟรนไชส์ ‘บอมเบอร์ด๊อก’ (Bomber Dog) ร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในช่วงที่เหลือของปี 2564 จำนวน 45 สาขา หรือเฉลี่ยเปิด 8-10 สาขาต่อเดือน และคาดว่าจะเปิดอีก 100 สาขาในปี 2565 ปัจจุบันมีสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ปั้มน้ำมัน และ Cloud Kitchen แล้วทั้งสิ้น 18 สาขา และเตรียมเปิดในเดือนกันยายนนี้ อีก 8 สาขา โดยเน้นขยายสาขาในพื้นที่ปั้มน้ำมันเป็นหลัก
ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายที่เติบโตจากธุรกิจนี้มากกว่า 100% ภายในปีนี้ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มช่องทางสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันสั่งอาหารชั้นนำ เช่น LINE MAN, Grab, Food panda เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วในการสั่งอาหารมารับประทานอีกด้วย
สำหรับ ‘บอมเบอร์ด๊อก’ (Bomber Dog) เป็นร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในรูปแบบเมนูทานเล่นที่เข้าถึงง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่มและตอบโจทย์คนเมืองที่เร่งรีบระหว่างเดินทาง เน้นทานง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งการลงทุนแฟรนไชส์ Bomber Dog จะเปิดสิทธิแก่ผู้ที่สนใจลงทุนด้านธุรกิจอาหารโดยไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็นมาก่อน เน้นเปิดในพื้นที่ขนาดเล็ก ในทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งโมเดลรถเข็น ปั้มน้ำมัน และคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นต้น
ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนในแฟรนไชส์ของบอมเบอร์ด๊อก มี 2 รูปแบบ คือ แบบรถเข็น ซึ่งจะมีค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 123,000 บาท และแบบตั้งบนพื้นที่ ซึ่งจะมีขนาดพื้นที่ 2.5x2.5 เมตร มีค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 260,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับผู้ที่สนใจลงทุนประกอบการธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเพื่อหารายได้เสริมหรือต้องการขยายธุรกิจใหม่ๆ โดยมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำแนะนำในการเริ่มต้นทำธุรกิจ คาดใช้เวลาคืนทุนภายในระยะเวลา 4-6 เดือน และสำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่มีเงินทุน บริษัทฯ ยังจับมือกับสถาบันการเงินชั้นนำ สนับสนุนสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ
“TKNRF ได้ทดลองเปิดตัวแบรนด์ดังกล่าวมากว่า 1 ปี เพื่อศึกษาและทดลองทำตลาด ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงได้ต่อยอดการขยายสาขาผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนเปิดร้านสาขา รวมถึงบริษัทฯ จะลงทุนขยายสาขาเอง ที่มุ่งเน้นทำเลสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. และแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าและยังใช้เป็นจุดกระจายสินค้าผ่านแฟลตฟอร์ม Home Delivery อีกด้วย”