“อีตั้น อิเล็คทริค”สั่งลุยอุปกรณ์สำรองไฟเจาะรายย่อยรับ New Normal
อีตั้น อิเล็คทริค ชี้ธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า ทั้งผลิตภัณฑ์ด้านการจ่ายและสำรองไฟบูมรับ New Normal ลุยปรับกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น พร้อมนำเสนอสินค้าใหม่ มั่นใจปีนี้ยอดขายโตมากกว่า 10%
รายงานข่าวจาก บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (Eaton) หนึ่งในบริษัทผู้นำนวัตกรรมด้านไฟฟ้าและบริการทางด้านการจัดการพลังงานไฟฟ้าระดับโลกเผยว่า บริษัทพร้อมจะให้การบริการแบบ One-stop service ที่สามารถเริ่มตั้งแต่รับคำปรึกษา นำเสนอโซลูชั่น ติดตั้งระบบไปจนถึงการบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายปริญญา พงษ์รัตนกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (EATON) กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้ธุรกิจทางด้านพลังงานไฟฟ้าทั้งผลิตภัณฑ์ด้านการจ่ายไฟและสำรองไฟมีการปรับตัวเพื่อรองรับการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้นมาก ดังนั้นบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อให้คำปรึกษาและบริการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแนวทางชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
สำหรับบริษัท อีตั้นฯ มีการเติบโตในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ได้ปรับตัวเข้าสู่ยุค New Normal อีกทั้งมีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การทำงานไปเป็นแบบ Work from home มากขึ้น ตรงนี้จุดนี้สอดคล้องกับแนวทางกลยุทธ์ของทางบริษัท เพราะกำลังมีการขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวขนาดกลาง ที่มีการใช้กำลังไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในบ้าน สินค้าของบริษัทถือว่าตรงกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าสำรอง UPS หรือ ระบบป้องกันไฟฟ้าที่ใช้ในอาคารและบ้าน ที่กำลังการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยอีตั้นฯเพิ่งมีการเปิดตัวตู้คอนซูเมอร์ ยูนิตแบบปลั๊กออนพร้อมชุดเบรกเกอร์และกันดูดใหม่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
“ที่สำคัญ อีตั้น ได้นำเสนอการให้บริการ One-stop service ที่สามารถเริ่มตั้งแต่รับคำปรึกษา นำเสนอโซลูชั่น ติดตั้งระบบไปจนถึงการบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนวัตกรรมล่าสุดของเราคือ EnergyAware® ที่จะเปลี่ยนการทำงานให้เครื่องสำรองไฟฟ้าของลูกค้าไม่เพียงแต่ทำหน้าที่สำรองไฟฟ้า หรือ รักษาเสถียรภาพของไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังจะทำหน้าที่เหมือนเป็นแหล่งเก็บพลังงาน (Energy storage) ที่สามารถสั่งการเก็บหรือจ่ายไฟฟ้าได้ตามต้องการอีกด้วย โดยจะถือเป็นโซลูชั่นใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการให้ลูกค้าและเข้ามาช่วยในการทำงานของผู้ใช้งานให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากขึ้น”
ปัจจุบันอีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) ได้มุ่งเน้นในกลุ่มธุรกิจหลัก ๆ 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบไปด้วย ระบบขนส่งมวลชน (Transportation) ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) เฮลธ์แคร์ (Health Care) อิเลคทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ (Electronic and Semi-con) เนื่องจากองค์รวมของตลาดในเมืองไทย ณ ตอนนี้ ธุรกิจการขนส่งและการเดินทางของทางรัฐและเอกชนมีการเติบโตอย่างคงที่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการลงทุนของภาครัฐเกี่ยวกับการสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทางที่กำลังอยู่ในแผนการดำเนินงาน การขยายท่าเรือ รวมถึงสนามบินในเมืองใหญ่ ๆ การลงทุนของระบบการเก็บข้อมูลใน คลาวด์ (Cloud) และห้องศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อรองรับระบบ5G อีกทั้งการที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านสุขภาพในภูมิภาคนี้ ซึ่งระบบสำรองไฟสำหรับในอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่าง ๆ ในโรงพยาบาลก็มีความจำเป็นมากเช่นกัน ซึ่งทาง Eaton สามารถที่จะเข้าไปช่วยสนับสนุนในกลุ่มธุรกิจประเภทเหล่านี้ในด้านโซลูชั่นของไฟฟ้าได้อย่างครบวงจร รวมไปถึงการบริการหลังการขายด้วยทีมงานมืออาชีพ
สำหรับการเติบโตของธุรกิจในปีนี้ เรามองว่าน่าจะเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญจากปีที่แล้วโดยประมาณการณ์มากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังมีการเพิ่มกำลังคนในทีมฝ่ายขายและฝ่ายบริการเพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายอีกด้วย” นายปริญญา กล่าว