โควิดดันเทรนด์โหยหาประสบการณ์รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หนุนอีเว้นท์ Pick up

15 ก.ย. 2564 | 04:05 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ย. 2564 | 11:39 น.

โควิด-19 เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคโหยหา “ประสบการณ์” ที่ดีมากขึ้นต่อเนื่องทั้งออฟไลน์ หรือออนไลน์ที่สร้างประสบการณ์รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสได้ อินเด็กซ์ฯ ทุ่ม 40 ล้านบาทสร้างสรรค์งานเฟสติวัลและอีเว้นท์ที่สดใหม่

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาได้กระทบต่ออุตสาหกรรมอีเว้นท์และท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งเวลานี้สถานการณ์เริ่มจะคลี่คลาย หลายประเทศเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์  รวมทั้งประเทศไทยเอง และมีแนวโน้มที่ธุรกิจอีเว้นท์และการท่องเที่ยวจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง แต่จากเหตุการณ์นี้ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

โควิดดันเทรนด์โหยหาประสบการณ์รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หนุนอีเว้นท์ Pick up

โดยงานวิจัยบริษัท เอ็นไวโร (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทในเครือ อินเด็กซ์ฯ พบว่า โควิด-19 เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคแบบทันทีทำให้พฤติกรรมของผู้คนโหยหา “ประสบการณ์” ที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์ หรือออนไลน์ ที่สร้างประสบการณ์รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสได้ อินเด็กซ์ฯ จึงรุกธุรกิจในรูปแบบของ Own Project มากยิ่งขึ้นโดยทุ่มทุนไปกว่า 40 ล้านบาทสร้างเฟสติวัล หรือ เทศกาล ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอินเด็กซ์ฯ และสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์ที่สดใหม่

 

โดยช่วงเดือนพฤศจิกายนบริษัทจะเปิดศูนย์รวมอีเว้นท์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมให้ทุกคนมาปลดปล่อยพลังไปกับประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดที่แรก ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ที่อินเด็กซ์ฯเองได้เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่ และได้มีการเติม creativity เข้าไปผสมผสานกับสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของไทยโบราณ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการเที่ยว ที่มีทั้งลานกิจกรรม (Activities) และอีเว้นท์ (event)  ในส่วนของกิจกรรมมีทั้งลานกิจกรรมบนบกและในน้ำ อย่างการเปิดลานสเก็ตรูปแบบใหม่เอาใจเหล่านักไถ ที่ลานสเก็ตมาพร้อมกราฟฟิตี้ที่เป็นลวดลายของคลื่นซัด

โควิดดันเทรนด์โหยหาประสบการณ์รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หนุนอีเว้นท์ Pick up

และ กิจกรรมพายเรือคายัค หรือซับบอร์ด เอาใจสายลุยที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ชมความงดงาม และธรรมชาติสบายๆของเมืองโบราณ และนอกจากในส่วนของลานกิจกรรมแล้วยังมีอีเว้นท์อย่าง การแข่งวิ่ง5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร ภายในระยะเวลาจำกัด 1 ชั่วโมง และครั้งแรกของการแข่งขันความเร็ว  เพียงแค่คุณมีอุปกรณ์ที่มีล้อไม่ว่าจะเป็น ROLLER SKATE, SKATE BOARD หรือ Scooter ,One wheel ก็สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้

 

 

ในส่วนของเฟสติวัล เริ่มต้นที่งาน “Forest of Illumination” ครั้งแรกกับประสบการณ์แสงสีบนผืนป่ายามค่ำคืน ณ คีรีมายา จังหวัดนครราชสีมา จัดระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 – 16 มกราคม 2565 นอกจากนี้ยังได้เนรมิตเส้นทางแห่งการเดินป่าสุดอัศจรรย์ สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเดินป่าครั้งใหม่  และส่งท้ายปลายปีด้วยงาน “Thailand International Lantern & Food Festival” เทศกาลโคมไฟและอาหารนานาชาติ จัดระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2564 ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ในรูปแบบของเทศกาลประดับโคมและอาหารนานาชาติ โดยเป็นการสร้างสรรค์กิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และก่อให้เกิดรูปแบบการท่องเที่ยวที่หลากหลาย

โควิดดันเทรนด์โหยหาประสบการณ์รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หนุนอีเว้นท์ Pick up

และปิดท้ายด้วย เมืองโบราณ ไลท์ เฟส 2565 “3 อาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์” ที่นำเสนอในรูปแบบเดอะมิวสิคัล ผ่านแสง สี เสียง และมัลติมีเดียสุดอลังการ จะถูกถ่ายทอดอย่างตระการตา ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2565 ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ

 

 “ซึ่งการจัดงานมีการรักษามาตรฐานการดูแลความปลอดภัยโควิด-19 อย่างเข้มงวดด้วยมาตฐานระดับสากล โดยการจำกัดผู้เข้าร่วมงาน ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน และทุกคนลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้าก่อนเข้างาน เน้นสถานที่แบบเปิด ที่พร้อมได้ชมทิวทัศน์ สูดอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าการจัดในที่ร่มและสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และงานเหล่านี้จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาครึ้กครื้นอีกครั้ง 

 

สำหรับเป้าหมายกลุ่มธุรกิจโอน โปรเจค (Own Project) ครั้งนี้ใช้งบลงทุนกว่า40 ล้านบาท และคาดดันรายได้สิ้นปี 700 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้นจากปีที่แล้ว 64 %”


 

สร้างมูลค่า และเพิ่มโอกาสด้านการตลาด ให้เข้าถึงทุกกลุ่มเซกเม้นท์เชิงลึก ลงทุนทุ่มกว่า สร้างสรรค์งานเฟสติวัลและกิจกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังจากโควิด-19 ”