นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ตลาดพิซซ่ายังคงตกอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจพิซซ่าจำนวนไม่น้อยล้มหายตายไปจากตลาด สำหรับเดอะพิซซ่า คอมปะนี ยอดขายลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 15% คาดว่าปัจุบันมูลค่ารวมตลาดพิซซ่าน่าจะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโตลดลง 10 -15%
สำหรับ บริษัท ในช่วงของการล็อกดาวน์ ปิดร้านอาหาร-ปิดห้าง ส่งผลให้ยอดขายหน้าร้านลดลงไปเยอะพอสมควรโดยเฉพาะในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมาซึ่งยอดขายไดน์อิน เท่ากับศูนย์ และปัจุบันภาพรวมไดน์อินยังลดลงประมาณ 70% อย่างไรก็ตามบริษัทยังสามารถทำยอดขายในช่องทางเดลิเวรี่และเทคโฮม เติบโตขึ้นมา50-60% แต่ก็ไม่สามารถไปกลบช่องทางหน้าร้านได้ 100% และเริ่มเติบโตลดลงซึ่งปัจุบันยอดขายยังคงติดลบอยู่ ซึ่งบริษัทมีแผนออกสินค้าใหม่ และบิ๊กแคมเปญออกมาเพื่อกระตุ้นช่องทางเดลิเวอรี่และ take away เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้า
และอีกหนึ่งปัจจัยคือ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ เช่นโครงการคนละครึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเชนร้านอาหารที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยผู้บริโภคหันไปจับจ่ายร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการภาครัฐทำให้ยอดขายตกเยอะทีเดียว
ส่วนทิศทางในอนาคต บริษัทหวังว่าครั้งนี้จะเป็นการล็อคดาวน์ครั้งสุดท้าย เพราะทางออกไม่ไช่การปิดร้านอาหารแต่เป็นการจัดสรรวัคซีนให้ประชาชนครบเร็วที่สุด การเปิดประเทศในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้าจะมีความเป็นไปได้ และแบรนด์ต่างๆคงต้องหาสินค้าใหม่ๆมาดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามานั่งทานที่ร้านเพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้แม้จะเปิห้างแล้วแต่ลูกค้าก็ยังไม่กล้าเข้าไปนั่งทานอาหารในร้าน และบางคนยังไม่กล้าเดินห้างด้วยซ้ำ
ทางฝั่งห้างสรรพสินค้าเองก็ต้องมีแคมเปญต่างๆเพื่อดึงลูกค้ากลับมา
ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือนภาพรวมตลาดจึงค่อยๆปรับตัวขึ้นมาหากสิ้นปีนี้ยังไม่สามารถเปิดประเทศได้ แต่หากสามารถเปิดประเทศได้ กำลังซื้อกลับมา คนกลับมาเดินห้างเหมือนเดิมการฟื้นตัวก็จะเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงต้องบริหารจัดการตามสถานภาพ พยายามออกแคมเปญเพื่อมากระตุ้นลูกค้าให้กลับมาซื้อ รวมทั้งตอบแทนลูกค้าในช่วงที่ยากลำบาก ซึ่งบริษัทพยายามออกแคมเปญลดราคาให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา
เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ได้จัดแคมเปญส่งเสริมการตลาด ซื้อ 1 แถม 1 “รอบพิเศษ ทุกหน้า ทุกขอบ ทุกช่องทาง ทุกวัน” โดยความพิเศษของกิจกรรมครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ไม่จำกัดประเภทหน้าพิซซ่า ไม่จำกัดขอบไม่จำกัดประเภทแป้งทั้งหนานุ่ม หรือบางกรอบ รวมถึงนิวยอร์กพิซซ่า XXXL 18 นิ้ว ก็ร่วมแคมเปญดังกล่าว อีกทั้งยังครอบคลุมทั้งการรับประทานในร้านทุกสาขา และเดลิเวอรี
นอกจากนี้ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยังได้เปิดตัวเมนูใหม่เอาใจคนรักเบคอน ได้แก่ “พิซซ่าเบคอนเบรกแตก” พิซซ่าหน้าอเมริกันเบคอนกรอบ ให้ได้อร่อยเพลินเต็มอิ่มกับเบคอน อร่อยแน่นเต็มขอบ กรอบล้นหน้า และ “ขอบไส้กรอกชีสยักษ์พันเบคอน” และขอบใหม่ที่จัดเต็มด้วยเบคอนกรอบ และไส้กรอกชีสเนื้อแน่นเด้งห่อด้วยแป้งกรอบนอกนุ่มในให้คนรักเบคอนได้อิ่มอร่อยกับเบคอนและไส้กรอกชีสแบบเต็มคำ โดยเมนูดังกล่าวยังร่วมแคมเปญ 1 แถม 1 ด้วยเช่นกัน
“ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดพิซซ่า หลังจากที่ภาครัฐบาลได้ออกมาตรการคลายล็อกดาวน์ และออกแผนการจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ ทิศทางตลาดในไตรมาสสุดท้ายก็มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น กำลังซื้อทั้งกลุ่มลูกค้าในร้านและเดลิเวอรีมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีต้นทุนสูง ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดตลอดไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ขอเสนอให้ภาครัฐหาแนวทางในการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ในเดือนตุลาคมนี้ ควรขยายประเภทร้านอาหารที่เข้าร่วมให้ครอบคุลม ทั้งนี้สำหรับด้านมาตรฐานความปลอดภัยของร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยังได้รับสัญลักษณ์ “SHA” หรือมาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับร้านอาหารที่มีคุณภาพการจัดการร้านเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 อีกด้วย”