การประกาศคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศให้ธุรกิจกลับมาขับเคลื่อน ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าได้ ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยกำลังจะกลับมา การเดินหน้าจัดกิจกรรมแคมเปญ โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ ปลุกมูด เตรียมพร้อมรองรับเม็ดเงินและกำลังซื้อที่จะเข้ามาจึงเป็นสิ่งสำคัญ “สยามพิวรรธน์” จึงนำทัพ 4 ศูนย์การค้าใหญ่ “ไอคอนสยาม-สยามพารากอน-สยามเซ็นเตอร์-สยามดิสคัฟเวอรี” อัดบิ๊กแคมเปญกระตุ้นยอดขายใน 2 เดือนสุดท้ายนี้
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ร่วมกับนางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ภาครัฐมีนโยบายการเปิดประเทศพร้อมทั้งผ่อนปรนมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ และธุรกิจศูนย์การค้าขยายเวลาเปิดให้บริการได้ตามปกติ
ส่งผลให้บรรยากาศภายในศูนย์การค้ากลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ มีนักช้อปทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจับจ่ายอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์มี ทราฟฟิกกลับมาเกือบ 100% สะท้อนภาพความเชื่อมั่นในการจัดการสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ของไทยและ ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตภายในศูนย์การค้าภายใต้มาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด
โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กลุ่มสินค้าแฟชั่น ไอทีแก็ตเจ็ต บิวตี้ และ F&B ซึ่งมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญานบวกว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ในฐานะผู้นำธุรกิจศูนย์การค้า สยามพิวรรธน์ จึงร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทยและเสริมสร้างพลังบวกให้สังคมไทยอย่างเต็มที่
สำหรับในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ จะใช้งบด้านการตลาดราว 300 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มวันสยาม ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี จำนวน 150 ล้านบาท และไอคอนสยาม 150 ล้านบาท ในการจัดอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อตอกย้ำให้ประเทศไทยป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก
“ไอคอนสยาม ในฐานะเป็นแลนด์มาร์คงานเคานต์ดาวน์สุดยิ่งใหญ่ระดับโลก (Global Countdown Destination) ได้เตรียมความพร้อมเพื่อขานรับแนวทางภาครัฐในการพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาเดินหน้า โดยไอคอนสยาม ร่วมกับทั้งหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรภาคเอกชน กลุ่มโรงแรม ผู้ประกอบการ และชุมชน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกันจัดมหาปรากฎการณ์ในธีม Endless Celebration เพื่อสร้างพลังบวกให้ประเทศไทย” นายสุพจน์ กล่าว และว่า
ใน 2 เดือนสุดท้ายนี้ไอคอนสยามจะมีบิ๊กอีเว้นท์จำนวน 4 งาน และกิจกรรมต่างๆและโปรโมชั่นต่างๆ ตลอดต่อเนื่องทั้งเดือนจากร้านค้าและห้างภายในศูนย์ ได้แก่
นางสาวชนิสา กล่าวว่า วันสยาม เตรียมแผนจัดบิ๊กอีเว้นท์ 4-5 งานในอีก 2 เดือนสุดท้ายนี้ พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์เฉลี่ยกว่า 10 งานต่อศูนย์ โดยเน้นนำเสนอมหัศจรรย์ความสุขในคอนเซ็ปต์ “Magic from the Universe” เนรมิตบรรยากาศ แกแล็กซี่แห่งความสุขด้วย AR characters พร้อมขานรับนโยบายภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการภาคส่วนต่างๆ
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า หลังการคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ลูกค้าคนไทยเข้ามาใช้บริการในไอคอนสยามเพิ่มขึ้น 20-30% จากเดิมที่มีลูกค้าคนไทยราว 3 หมื่นรายต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นรายต่อวัน ถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยสินค้าแบรนด์ลักชัวรีเริ่มกลับมาได้รับความนิยมสูง เห็นได้จากการเข้าคิวเพื่อเลือกซื้อสินค้าในแต่ละร้านที่มีจำนวนมากขึ้น
ขณะที่กลุ่มสินค้าที่ยังได้รับผลกระทบได้แก่ กลุ่มแฟชั่นเสื้อผ้า ขณะเดียวกันพบว่ามีร้านค้าราว 10% จากร้านค้าทั้งหมดราว 400 ร้านค้าที่หมุนเวียนออกไป และมีร้านแบรนด์ใหม่เข้ามา เพื่อให้บริการกับลูกค้า สำหรับใน 2 เดือนสุดท้ายนี้ ไอคอนสยามเตรียมจัดโปรโมชั่นใหญ่ได้แก่ “ ICONSIAM WORLD OF GIFTS – Let the Magic Begin” ตั้งแต่วันนี้ – 16 ม.ค. 2565
โดยไฮไลท์จะเป็นการนำเสนอมหกรรมอาณาจักรของขวัญจากทั่วทุกภาคของไทยและทั่วโลกให้เลือกซื้อกว่า 1 ล้านชิ้น และเมื่อช้อปปิ้งตามเงื่อนไขที่กำหนด ยังได้รับสิทธิ์ลุ้นเป็นเจ้าของ รถยนต์ Haval H6 Hybrid Ultra มูลค่า 1,249,000 บาท ทองคำแท่ง และบัตรกำนัลแทนเงินสด รวมมูลค่ากว่า 8.38 ล้านบาท โดยการจัดแคมเปญในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ร้านค้ามียอดขายเติบโตขึ้น 10-20%