นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล ได้ปรับองค์กรครั้งใหญ่ และระบบการทำงานเป็น Omni-Centric พร้อมเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำงานเป็นแบบ Digital First จนสามารถทรานส์ฟอร์มองค์กรเป็นดิจิทัล รีเทล (Digital Retail) ได้สำเร็จ ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นผลลัพธ์ความสำเร็จมากมาย ดังนี้
โดย 4 ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นดิจิทัล รีเทล ประกอบไปด้วย
1 ดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายขององค์กรที่ชัดเจนในการเป็น Central to Life หรือศูนย์กลางชีวิตของผู้คน โดยยึดลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องตามเทรนด์ของผู้บริโภค
2 สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ และปลูกฝังแนวคิดแบบ Digital First โดยเราได้ติดอาวุธให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจด้านดิจิทัลมากกว่า 50,000 คน และปรับระบบการทำงานให้เป็น Omni-Centric เพื่อมอบบริการให้แก่ Omni-Customer ในยุค 5.0 ได้อย่างดีที่สุด
3 ลงทุนกว่า 31,000 ล้านบาท ในการพัฒนา Central Retail Ecosystem ที่แข็งแกร่ง และแพลตฟอร์มออมนิแชแนลที่สมบูรณ์แบบที่สุดในทั้ง 3 ประเทศ ที่เชื่อมทั้งออฟไลน์ และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งประกอบด้วย
4 ปรับเปลี่ยน Portfolio อย่างมีกลยุทธ์ สู่ธุรกิจที่มีการเติบโตเร็ว และยั่งยืน
สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดของทุกองค์กร แต่เซ็นทรัล รีเทล ก็ยังสามารถเดินหน้าธุรกิจ และก้าวผ่านวิกฤตมาได้อย่างแข็งแกร่ง และยืดหยุ่น
โดยมีแพลตฟอร์มออมนิแชแนลเป็นอาวุธหลักที่ทำให้ลูกค้ายังคงสามารถจับจ่ายได้อย่างสะดวกสบายและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ห้างร้านในเครือในประเทศไทยถูกปิดไปกว่า 51 วัน และในประเทศเวียดนามถูกปิดไปเกือบทั้งไตรมาส
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 3 / 2564 ของเซ็นทรัล รีเทลมีรายได้รวม 41,482 ล้านบาท (-10.6% QoQ) EBITDA 2,541 ล้านบาท (-37.8% QoQ) และสำหรับในปีนี้เราก็ยังมีการขยาย และปรับปรุงแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเข้าซื้อกิจการต่างๆ และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์การค้าฯ ซึ่งมีผลกระทบต่อกำไรชั่วคราวใน
ไตรมาส 3 ทำให้ขาดทุนสุทธิ 2,220 ล้านบาท
“เซ็นทรัล รีเทล ได้ทรานส์ฟอร์มองค์กรมาอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็ว ด้วยวิสัยทัศน์และการดำเนินงานที่มีทิศทางชัดเจน ทำให้เกิดขึ้นได้จริง และประสบผลสำเร็จ ภายใต้สถานการณ์วิกฤตที่ท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ที่เราสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส (Perfect storm, Perfect Opportunity)
โดยนับจากนี้ยาวไปจนถึงปีหน้า เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจจะมีโมเมนตัมที่ดีขึ้นต่อเนื่องหลังเห็นสัญญาณบวกจากการเปิดประเทศ และผลตอบรับที่ดีมากของลูกค้าที่กลับมาใช้บริการในห้างร้านของเรา บนมาตรการความสะอาดและปลอดภัยที่เข้มข้นยกระดับ โดยเห็นได้จากบรรยากาศการช้อปปิ้งที่คึกคักต้อนรับช่วงไฮซีซั่น และทราฟฟิกที่กลับมาอย่างรวดเร็วกว่าที่คาด ทั้งนี้เซ็นทรัล รีเทลยังเตรียมแผนเดินหน้าขยายตลาดเต็มที่ ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี พร้อมปักธงสู่การเป็น ‘ดิจิทัล รีเทล’ ระดับโลก ภายในปี 2568”