นาย วรศักดิ์ เกรียงโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (EE) เปิดเผยว่า “โครงการ CW1 วางแผนการปลูกเป็น 2 ส่วนคือ การปลูกในโรงเรือน จำนวน 30,000 ต้น และ Outdoor จำนวน 20,000 ต้น เน้นการใช้นวัตกรรมการปลูกและสายพันธุ์ที่มีคุณภาพนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ทำให้ผลผลิตที่ได้มีปริมาณสาร CBD สูงถึง 19%, 21% ทุกส่วนจากต้นกัญชงของเราจะสามารถจำหน่ายได้ทั้งหมดตั้งแต่ ช่อดอกกัญชง(แห้ง) ใบกัญชง(สด) ลำต้นและกิ่งก้าน(แห้ง) รวมถึงราก(สด) ตั้งเป้าขายผลผลิตช่อดอกกัญชงแห้งที่มีระดับสาร CBD มากกว่า 10% จำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 กิโลกรัมต่อปี
สำหรับรอบการปลูกแรกนี้มีกำหนดเก็บใบอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม เพื่อทยอยส่งมอบแก่ลูกค้าและจะตัดช่อดอกเพื่อจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ฉะนั้นบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2565”
“เราได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาเป็นที่ปรึกษาในการปลูก ทำให้ ปัจจุบันบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรกรรมแบบเฉพาะทาง จากความสำเร็จของ CW1 ที่เป็นโครงการนำร่องทำให้เรามองหาและศึกษาโครงการใหม่ๆ ตามแผนเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการกัญชงที่มีศักยภาพ เพื่อเร่งสร้างปริมาณ supply ให้ได้มากตามที่ตลาดหรือกลุ่มลูกค้าต้องการจากเรา
แน่นอนว่าจะนำมาซึ่งรายได้ให้กับบริษัท EE อย่างเพิ่มพูนในแต่ละไตรมาส ทั้งนี้บริษัทมีเงินทุนที่เตรียมพร้อมไว้แล้วสำหรับการขยายโครงการ”
ด้าน ‘นางฟ้ากัญชา’ หรือ คุณอุนารินทร์ กิจไพบูลทวี จากบริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด (CW) นอกจากรับหน้าที่เป็นทูตแห่ง EE พาเยี่ยมชมฟาร์มแล้ว ยังได้จัดแสดงสินค้าตัวอย่างพร้
การเปิดเยี่ยมชมฟาร์มแคนนาบิ
“ฟาร์มแคนนาบิซเวย์ วัลเล่ย์” อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเป็นทั้