นายณฤกษ์ มางเขียว รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ นำนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยแบบผสมผสานทั้งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติตลอดสายการผลิตมาใช้ โดยควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบตั้งแต่เนื้อสัตว์มาจากฟาร์มมาตรฐาน
รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิตลอดห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่โรงงานชำแหละและแปรรูปเนื้อสัตว์จนถึงมือผู้บริโภคที่อุณหภูมิเฉลี่ย 0-12 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบ ตลอดจนส่วนผสมและเครื่องปรุงที่มีการคัดเลือกเป็นพิเศษตามสูตรการผลิต ให้ได้รสชาติอร่อยและปลอดภัย
“ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกของซีพีเอฟให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยทางอาหาร การใช้ส่วนผสมต่างๆ ได้แก่ เครื่องเทศ เครื่องปรุงรส สอดคล้องตามมาตรฐานอาหารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตลอดจนไนไตรท์ ที่ช่วยคงคุณลักษณะสีของไส้กรอก และป้องกันการเกิดเชื้อแบคทีเรียในอาหาร
ในปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์ที่ อย. กำหนด (ต่ำกว่า 80 มิลิกรัมต่อกิโลกรัม) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) และองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงมีการนำนวัตกรรมระบบรมควันที่มีเทคโนโลยีในการกำจัดสารทาร์มาใช้ ซึ่งช่วยกรองให้ได้ควันคุณภาพดีมาใช้อบไส้กรอกเพื่อให้ได้ไส้กรอก ไร้สารทาร์”
ซีพีเอฟ นำกระบวนการผลิตแบบอัตโนมัติต่อเนื่องมาใช้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย เริ่มตั้งแต่การจัดเก็บวัตถุดิบ การผลิต จนถึงการจัดการสินค้าในคลัง รวมถึงการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้จัดการวัตถุดิบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการจัดเก็บและเรียกใช้วัตถุดิบตามลำดับก่อน-หลัง (First In-First Out) ด้วยระบบ RFID (Radio - Frequency Identification) ทำให้สามารถเรียงลำดับการใช้วัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อความสด สะอาดของผลิตภัณฑ์ และมีการใช้เครื่องตรวจจับการปนเปื้อนโลหะ (Metal Detector และ X-Ray)เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้บริโภค
ซีพีเอฟ ยังมีระบบตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบด้วยการกำหนดมาตรฐานการชั่ง ตวง วัด น้ำหนักวัตถุดิบและส่วนผสมอย่างแม่นยำ รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพระหว่างกระบวนการผลิตจนถึงผลิตภัณฑ์ (Quality Control) และขั้นตอนสุดท้ายเป็นการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์ทุกรายการโดยห้องปฏิบัติการ (Laboratory) ที่ทันสมัยตามมาตรฐาน ISO 17025 เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าปลอดภัยและพร้อมส่งต่อไปยังผู้บริโภค
นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ไส้กรอกชนิดเทอร์โมฟอร์มแบบฟิล์มหลายชั้น (Multi-layer thermoforming film) ซึ่งช่วยรักษาความสดใหม่ของอาหาร ป้องกันการซึมผ่านของออกซิเจน ร่วมกับการบรรจุอัตโนมัติช่วยลดการปนเปื้อนระหว่างการบรรจุ ทำให้อายุการเก็บของผลิตภัณฑ์นานขึ้น โดยไม่ต้องใช้สารกันเสีย