นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ไส้กรอกเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลัก เป็นโปรตีน ไขมัน และน้ำ แต่ยังมีส่วนประกอบของสารอื่นที่ใส่ลงไปในไส้กรอกอีก เพื่อให้ไส้กรอกมีสีสันน่ารับประทานป้องกันการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ และเป็นการยืดอายุการเก็บรักษา
1.วัตถุเจือปนอาหาร ถ้าบริโภคต่อครั้งเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้ได้รับสารไนไตรต์ในปริมาณสูงเกินกว่าค่าปลอดภัยของไนไตรต์ที่กำหนดไว้ คือ วัยรุ่น 9-18 ปี ไม่ควรเกิน 3.1 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ ตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ไม่ควรเกิน 3.8 มิลลิกรัม ซึ่งทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
2.ไขมัน น้ำมัน ซึ่งช่วยให้ไส้กรอก มีลักษณะนุ่ม ชุ่มฉ่ำ มีเนื้อสัมผัสและรสชาติดี โดยไส้กรอกจัดเป็นอาหารที่มีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูง หากทอด 1 ชิ้น เทียบเท่ากับน้ำมัน 3 ช้อนชา และถ้ากินเป็นจำนวนมากติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจเสี่ยงต่อโรคอ้วน ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไม่ติดต่อเรื้อรังตามมาได้
3.เกลือหรือโซเดียม ปริมาณเกลือที่เติมนั้นแล้วแต่ชนิดของไส้กรอก โดยส่วนใหญ่ไส้กรอกหมู 1 ชิ้น มีโซเดียม ประมาณ 300-400 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับเกลือประมาณ 1/5 ช้อนชา ตามปกติแล้วร่างกายจะได้รับโซเดียมที่มีอยู่ตามธรรมชาติของอาหารชนิดนั้น ๆ ด้วย ซึ่งใน 1 วัน ไม่ควรบริโภคโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมหรือเทียบเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4 ช้อนชา เพราะการบริโภคโซเดียมมากเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ และหลอดเลือด และโรคไตเรื้อรังได้
ข้อสังเกตในการเลือกซื้อไส้กรอก