เจ้าสัวเจริญ ดัน AWC ทุ่ม 1.65 หมื่นล้านตั้งองค์กรการร่วมทุนในธุรกิจโรงแรม

19 ก.พ. 2565 | 06:27 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2565 | 17:35 น.

เจ้าสัวเจริญ ดัน AWC ทุ่ม 1.65 หมื่นล้าน ตั้งองค์กรการร่วมทุน จับมือสถาบันการเงินไทย-เทศ โฟกัสการร่วมลงทุนในธุรกิจโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย หวังวางรากฐานในการสร้างแหล่งรายได้แหล่งใหม่ ทั้งซื้อหุ้น 4 บริษัทลงทุน 3 โครงการ 4,498 ล้านบาท

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ  AWC ธุรกิจในเครือทีซีซีกรุ๊ป ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่บริหารโดยคุณวัลลภา ไตรโสรัส (บุตรสาว) ยังเดินหน้าเข้าซื้อกิจการและลงทุนธุรกิจโรงแรม ในเมืองท่องเที่ยวเข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอต่อเนื่อง

 

แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2565 มีมติอนุมัติให้ดำเนินการจัดตั้งองค์กรการร่วมทุน (Investment Vehicle) เพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย

องค์กรการร่วมทุน (Investment Vehicle)มีมูลค่าเงินลงทุนรวมสูงสุดประมาณ 500 ล้านดอลลาร์  หรือเทียบเท่าประมาณ 16,500 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะเข้าร่วมลงทุนประมาณ 15 - 60% ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด และส่วนเงินลงทุนที่เหลือจะเป็นการร่วมลงทุนจากผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้AWCเห็นว่าการจัดดำเนินการครั้งนี้จะเป็นการวางรากฐานในการสร้างแหล่งรายได้แหล่งใหม่ โดยมาจากค่าธรรมเนียมในการพัฒนาและบริหารโครงการที่จะได้รับจากองค์กรการร่วมทุน (Investment Vehicle) ด้วยศักยภาพของกลุ่ม AWC และความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย พัฒนาชุมชนโดยรอบ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป

 

โดยAWCกำลังอยู่ในช่วงศึกษาโครงสร้างและสัดส่วนการเข้าลงทุนเพื่อผลประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น หากมีรายละเอียดเพิ่ม บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งความคืบหน้าผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

 

นอกจากนี้บอร์ด AWC ได้อนุมัติการใช้สิทธิในการซื้อหรือพัฒนาทรัพย์สิน (Right to Purchase or Develop) ตามสัญญาให้สิทธิระหว่าง AWC กับ คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี (ผู้ให้สิทธิ) ฉบับลงวันที่ 7 มิถุนายน 2562 และบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติม วันที่ 13 สิงหาคม 2562

 

โดยการซื้อหุ้นเพื่อเข้าลงทุนใน 4 บริษัท จากผู้ถือหุ้นเดิม  (คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี) ประกอบด้วย บริษัท โฮเทลส์ เวิลด์ 9 จำกัด, บริษัท วาไรตี้ แอสเซ็ท 1 จำกัด, บริษัท รีเทล เวิลด์ 5 จำกัด และ บริษัท อิมม์ โฮเต็ล เจริญกรุง จำกัด  รายละเอียดดังนี้

 

  •  การเข้าลงทุนในบริษัท โฮเทลส์ เวิลด์ 9 จำกัด โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดจำนวน 200,000 หุ้น หรือ 100% รวมมูลค่า 438 ล้านบาท นอกจากนี้ต้องใช้เงินลงทุนพัฒนาโครงการอีกประมาณ 1,536 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น 1,978 ล้านบาท

 

โฮเทลส์ เวิลด์ 9 เป็นเจ้าของโครงการ ดิ อิมพีเรียล โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ขนาดพื้นที่  22-1-48 ไร่ ประกอบด้วย ที่ดินและโรงแรม 5 ชั้น จำนวนห้องพัก 73 ห้อง  AWC จะพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์โรงแรมระดับลักชัวรี เปิดประมาณไตรมาส 3 ใน ปี 2568 เน้นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง มีห้องพัก จำนวน 97 ห้อง

 

 

  • การเข้าลงทุนในบริษัท วาไรตี้ แอสเซ็ท 1 จำกัด และบริษัท รีเทล เวิลด์ 5 จำกัด โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด 500,000 หุ้น หรือ 100%  รวมมูลค่า 647 ล้านบาท นอกจากนี้ต้องใช้เงินลงทุนพัฒนาโครงการอีกประมาณ 983 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น 1,637 ล้านบาท

 

ทั้ง 2 บริษัทเป็นเจ้าของโครงการทรงวาด ตั้งอยู่บนถนนทรงวาด สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ มีที่ดินจำนวน 2 แปลง ขนาดพื้นที่ 2-0-20.8 ไร่ และขนาดที่ดิน 0-3-69.8 ไร่

 

โดย AWC วางแผนพัฒนาโครงการทรงวาด ภายใต้แบรนด์โรงแรมระดับลักชัวรี จำนวน 89 ห้อง พร้อมจุดขายมีร้านอาหารและพลูบาร์ระดับหรู ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ตรงข้ามโครงการ ล้ง 1919 ที่ AWC ได้เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 โดยโครงการทรงวาดจะเชื่อมต่อกันทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตามแผนการเดินทางวิถีแห่งสายน้ำ (The River Journey) และสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชิงสุขภาพระดับโลก คาดเปิดดำเนินการไตรมาส 1 ใน ปี 2569

 

  • การเข้าลงทุนในบริษัท อิมม์ โฮเต็ล เจริญกรุง จำกัด โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดจำนวน 5,000,000 หุ้น หรือ 100%  รวมมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท นอกจากนี้ต้องใช้เงินลงทุนพัฒนาโครงการอีกประมาณ 579 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น 882 ล้านบาท

 

 

อิมม์ โฮเต็ล เจริญกรุง เป็นเจ้าของ “โครงการสวอน” ตั้งอยู่ซอยเจริญกรุง 36 ถนนเจริญกรุง บางรัก กรุงเทพฯ ขนาดที่ดิน 0-2-97 ไร่ อาคาร 4 ชั้น เดิมมีห้องพักจำนวน 67 ห้อง อยู่ใกล้กับโครงการอีเอซีและโอพีเพลส ที่ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 40 เป็นทรัพย์สินที่ AWC ถือครองอยู่แล้วในปัจจุบัน

 

การเข้าซื้อโครงการสวอน จึงเป็นการสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจในการพัฒนาโรงแรมเพื่อเพิ่มจำนวนห้องพักและสัดส่วนของโรงแรมระดับลักชัวรี เพิ่มศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากที่ดินปัจจุบันคาดว่าจะเปิดดำเนินโครงการภายใต้แบรนด์โรงแรมระดับลักชัว จำนวน 69 ห้อง ประมาณไตรมาส 4 ใน ปี 2568 เน้นท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภายใต้แนวคิดการเดินทางผ่านกาลเวลาจากศิลปะคลาสสิกมาสู่ความร่วมสมัย

 

การซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 4 บริษัท ใน 3 โครงการดังกล่าว AWC มองว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มเงินลงทุนและสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชนโดยรอบระยะยาว สร้างศักยภาพการใช้ประโยชน์จากที่ดินปัจจุบัน เพิ่มจำนวนห้องพักและพอร์ตโฟลิโอกลุ่มลักชัวรี โดยจะใช้เงินทุนจากการกู้ยืมสถาบันการเงินประมาณ 4,498 ล้านบาท ซึ่งได้รับอนุมัติวงเงินกู้แล้ว