สมาคมโรงแรมไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม เดือนก.พ.2565 โดยสำรวจจากผู้ประกอบการโรงแรม 142 แห่ง (รวม AQ และ Hospitel) พบว่า โรงแรมส่วนใหญ่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือน ม.ค. และมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน หรือคิดเป็นสัดส่วน 45% ของผู้ตอบแบบสำรวจ
ทั้งนี้ยังพบข้อมูลว่า มีสัดส่วนของกลุ่มที่มีสภาพคล่องน้อยกว่า 1 เดือนอยู่ที่ 15% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน สอดคล้องกับรายได้ของธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่มีโรงแรมที่สภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเพียง 17% โดยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่มีอัตราการเข้าพักมากกว่าค่าเฉลี่ย
ส่วนรายได้ของโรงแรมส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำ ใกล้เคียงกับเดือน ม.ค. โดยมีโรงแรมที่รายได้กลับมาไม่ถึง 30% เมื่อเทียบกับก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังมีสัดส่วนประมาณ 49%
ขณะที่โรงแรมที่มีรายได้กลับมาแล้วเกินครึ่งหนึ่งแล้ว มีสัดส่วนลดลงเหลือเพียง 19% ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยมากกว่า 40%
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย ยอมรับว่า อัตราการเข้าพักในเดือนก.พ.นี้ แม้จะเพิ่มขึ้นจากผลของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐ และการกลับมาเปิดลงทะเบียน Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565
แต่อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีสัดส่วนต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ส่วนหนึ่งจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และการเดินทางเข้าพักมีต้นทุนสูง โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR
สำหรับสถานะปัจจุบันโรงแรมจากการสำรวจ มีโรงแรม 72% เปิดกิจการปกติ ใกล้เคียงกับเดือน ม.ค. ที่ 73% โดยโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวมีสัดส่วนราว 3% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่ปิดมามากกว่า 6 เดือน และคาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งอย่างเร็วตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เป็นต้นไป
นอกจากนี้เมื่อดูด้านการจ้างงานเดือน ก.พ. 65 พบว่า โรงแรมมีการจ้างงานเฉลี่ยลดลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 59.8% ของการจ้างงานเดิมก่อนเกิดโควิด-19 โดยมีการจ้างงานลดลงเกือบทุกภาค ตามการเข้าสู่ช่วง Low Season ยกเว้นโรงแรมในภาคอีสานและภาคเหนือ