ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยรวมตัวกันกว่า 20 สมาคมท่องเที่ยว ทำหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ชงข้อเสนอ เรื่อง การสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย และมาตราการการเดินทางเข้าประเทศที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทย โดยมีข้อความว่า
รัฐบาลภายใต้การนําของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กําหนดยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในการสร้างความสมดุลของการควบคุมการระบาด และกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายใต้ชื่อ Phuket Tourism Sandbox ตั่งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นที่จับตามองของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก และภายหลังประเทศไทยได้รับความชื่นชมในความสําเร็จที่ได้เป็นผู้นําทางความคิดและริเริ่มในการสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมกับโควิด 19จากนานาประเทศ
จากพัฒนาการของ Phuket Tourism Sandbox ทําให้หลายประเทศได้ นําแนวความคิดและรูปแบบของประเทศไทย เป็นตัวแบบตั้งต้นในการเริ่มเปิดประเทศ และเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประเทศไทยได้พัฒนารูปแบบของการเดินทางเข้าประเทศไทยจาก Phuket Tourism Sandbox เป็นแบบ Test & Go ที่ดําเนินการในปัจจุบัน และได้ปรับลดเงื่อนไขด้านขั้นตอนและเอกสารให้ง่ายลง
แต่จากการศึกษาเชิงเปรียบเทียบถึงเงื่อนไขและขั้นตอนของประเทศไทยกับนานาประเทศ พบว่าในหลายประเทศได้ปรับเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศลงอย่างมาก เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตัดสินใจเดินทางเข้าประเทศง่ายขึ้นอันเป็นปัจจัยหลักในการสร้างเสริมสภาพเศรษฐกิจในประเทศนั้นให้เติบโตขึ้น
เพื่อให้ประเทศไทยที่เป็นที่ยอมรับ และสามารถช่วงชิงความเป็นผู้นําในด้านรูปแบบการเปิดประเทศ และเป็นการเพิ่มโอกาส ศักยภาพ และขีดความสามารถด้านการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวไทย ทางหน่วยงานทางการท่องเที่ยวทั้งประเทศไทย ใคร่นําเสนอมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทย โดยขอให้มีการประกาศใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
1. พิจารณาทบทวนความจําเป็นของกระบวนการเดินทางเข้า Thailand Pass ว่า มีความจําเป็นในการคงอยู่ของระบบ Thailand Pass โดยเสนอให้มีการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ
2. พิจารณาเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศจากเอกสารการรับรองการได้รับวัคซีนที่ครบ
ตามเงื่อนไข เพียงอย่างเดียว โดยเสนอพิจารณายกเลิกการแนบเอกสารประกันโควิด 19 และเอกสารยืนยันที่พัก
3. พิจารณาการปรับวิธีการตรวจหาเชื้อจาก RT-PCR เป็ น ATK ในการตรวจครั้งที่ 1 ในวัน
เดินทางถึง และยกเลิกการตรวจ ATK ในการตรวจครั้งที่ 2
4. ปรับวิธีการกักตัวผู้มีความเสี่ยงสูง (HRC)
5. ปรับลดจำนวนวันในการกักตัวผู้ติดเชื้อ จาก 10 วันให้คงเหลือ 5 วัน
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกําลังถูกท้าทายจากมาตรการการเดินทางเข้าของประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศที่มียุทธศาสตร์ที่เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโต ทั้งประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงภูมิภาคต่าง ๆ ที่ล้วนแล้วแต่ต้องการให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเพื่อพยุง
สภาวะเศรษฐกิจเช่น ประเทศเกาหลีใต้ หรือ ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงหลายประเทศในภูมิภาคยุโรป
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกําลังได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซีย และประเทศยูเครน ที่ส่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ยากต่อการควบคุม เช่น ราคาน้ำมัน ราคาเชื้อเพลิง ค่าเงิน และที่สําคัญคือ สภาวะการถดถอยทางเศรษฐกิจทั่วโลก Global Recession
ภาคเอกชนโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า การสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเริ่มจากการปรับมาตราการการเดินทางเข้าประเทศที่มีความเป็นไปได้ เหมาะสมต่อสถานการณ์ และได้เปรียบเชิงการแข่งขัน จะส่งผลต่อยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทยที่มีผลต่อการกระตุ้นต่อสภาพเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น และระยะกลาง อันจะเป็นจุดเปลี่ยนสําคัญที่ทําให้ประเทศไทยมีจุดยืนที่ชัดเจน และสร้างภาพลักษณ์ชิงบวกในเวทีโลก
จึงเรียนมาเพื่อได้โปรดให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้โปรดพิจารณา และมีบัญชาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับนโยบายไปปฏิบัติโดยทันที เพื่อประเทศไทย และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง สมดุล และยั่งยืน