เปิดแผน “เซ็นทรัล” สยายปีกลงทุนครอบคลุม 30 จังหวัดใน 5 ปี

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตและการก้าวสู่ Retail-Led Mixed-Use Development บริษัทเตรียมแผนใช้เงินลงทุนราว 1 แสนล้านบาทใน 5 ปีหรือเฉลี่ยราว 2 หมื่นล้านบาทต่อปี

สำหรับลงทุนในโครงการศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่อยู่อาศัย ออฟฟิตบิวดิ้ง รวมถึงโรงแรม ซึ่งจะครอบคลุมใน 30 จังหวัดสำคัญของประเทศ ขณะที่ในกรุงเทพฯเองปัจจุบันมีการลงทุนครอบคลุมในทุกพื้นที่ และบริษัทยังมีแผนลงทุนต่อเนื่องเพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

“เซ็นทรัลพัฒนา ถือเป็นผู้บุกเบิก Retail Landscape สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศและพัฒนาพื้นที่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ พร้อมประสบความสำเร็จในการเป็น Center of Life มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ต่อยอดสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งให้ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า, โครงการที่อยู่อาศัย, โรงแรม และออฟฟิศ ให้เป็นพื้นที่และศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกกลุ่ม”

สำหรับการลงทุนของเซ็นทรัลพัฒนาจะเกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์ Imagining the future of retail โดยมีจุดแข็ง 1. Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ผ่านการขยายโครงการ 2. Customer-Centric สร้างคอมมูนิตี้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า และ 3. Partner Champions การเป็น Business Partner ให้คู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนโครงการใหม่ได้แก่ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” (Central WestVille) บนที่ดิน 40 ไร่ ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 6,200 ล้านบาท เน้นความครบครันทั้งร้านค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล อาทิ Central Department Store คอนเซ็ปต์ใหม่, Central Foodhall, B2S ThinkSpace และพื้นที่สีเขียว เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่พักอาศัยในย่านนี้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปี 2566

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเปิดให้บริการ “เซ็นทรัล จันทบุรี” โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท ในวันที่ 26 พ.ค. 65 นี้เพื่อรองรับความเจริญต่อเนื่องจากเขตเศรษฐกิจ EEC ในอนาคต ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวเมืองรอง

รวมทั้งมีแผนรีโนเวทศูนย์การค้าเพื่อสร้างสีสัน อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ กับโซนใหม่ “Zone I” (โซน ไอ) รองรับร้านค้า lifestyle brand ทั้ง local & international และศูนย์การค้าอื่นๆ อีกกว่า 10 โครงการ อาทิ เซ็นทรัล พระราม 2, รามอินทรา, พัทยาบีช, แจ้งวัฒนะ, เวสต์เกต, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, และ ขอนแก่น เป็นต้น

ขณะที่ นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด กล่าวว่า บริษัทเตรียมจัดอีเว้นต์กว่า 1,000 งานต่อปี รวมทั้งนำเสนอนวัตกรรมเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค การทำ Co-Campaign ร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก

อาทิ Tinder, Huawei และการใช้ New Disruptive Platform ใช้เทคโนโลยี VR ดึงลูกค้าให้มี Experience บนพื้นที่โลกเสมือนแบบ Cross-Region, การสร้าง Tourism Multiplier ด้วย Localized Events ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการ ฯลฯ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักช้อปด้วย

ด้านนายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย กล่าวถึงการจับมือร่วมกับพันธมิตรในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนว่า จะช่วยธุรกิจของคู่ค้าอย่างครบวงจรแบบ End-to-End Solutions ทั้งการช่วยเหลือการเติบโตและขยายสาขาด้วยโมเดล Co-investment, Funding, และ Franchise การช่วยเหลือด้าน Business Operation ต่างๆ, การใช้ Big Data จาก The 1 และ The 1 Biz, และ Retail Omnichannel เพื่อส่งเสริมและผลักดันธุรกิจของคู่ค้า รวมไปถึงการจัดการ Transaction และบริการต่างๆ “จุดแข็งของเซ็นทรัลพัฒนาคือ                   

พร้อมช่วยเหลือคู่ค้าให้ Scale up business ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการได้เข้ามาอยู่ใน ecosystem ที่แข็งแกร่งของ Central Group, การที่ศูนย์การค้ามีการวางโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น Excellent Services & Facilities ในส่วนกลางที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเสมอโดยร้านค้าไม่ต้องลงทุนเอง ไปจนถึงโอกาสในการขยายธุรกิจ ทดลองและเจาะตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ”

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,771 วันที่ 3 - 6 เมษายน พ.ศ. 2565