ตลอดจนธุรกิจอื่นๆ ให้บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการบริหารให้การปล่อยสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรที่เห็นความสำคัญ และจริงจังกับการแก้ไขวิกฤตทางสภาพภูมิอากาศ
วันคุ้มครองโลกหรือ Earth Day ตรงกับวันที่ 22 เมษายนของทุก ๆ ปี ถือเป็นเครื่องเตือนใจให้เราถึงความสำคัญของการดูแลโลกและปกป้องสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ในขณะที่วิกฤตของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change ยังดำเนินต่อไปไม่หยุด จึงเป็นความสำคัญและเร่งด่วนที่องค์กรธุรกิจต่าง ๆ จะมีบทบาทในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความยั่งยืน หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรสิ่งที่ดี ไปจนถึงการปลูกฝังโมเดลธุรกิจสีเขียวและแนวทางปฏิบัติที่สร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ผู้นำธุรกิจควรพิจารณาว่าบริษัทของตนจะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างไร เพื่อให้ไปถึงจุดหมายของลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero การจะไปถึงเป้าหมายนี้ ทุก ๆ องค์กรจะต้องสร้างให้เกิดความโปร่งใส ความถูกต้องและน่าเชื่อถือ
ในรายงานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โซลูชั่นที่สร้างการเปลี่ยนแปลง (Transformational Solutions) และข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (Trusted Data) จากระบบ เป็นปัจจัยสำคัญ ในการเร่งให้องค์กรไปถึงเป้าหมาย และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ภาคธุรกิจสามารถที่จะเป็นแพลตฟอร์มใหญ่ที่สุด ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับโลกใบนี้
แม้องค์กรต่าง ๆ จะสามารถกระตุ้นให้บุคลากรและสังคมคำนึงถึงความสำคัญในการสร้างความยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม การที่จะทำให้เกิดสิ่งที่เป็นรูปธรรมในการลดการปล่อยมลพิษ จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรนั้น ๆ จะต้องสามารถตรวจวัดค่ามลพิษที่ต้องการลด ซึ่งการตรวจวัดปริมาณการปล่อยคาร์บอนก็เช่นกัน หากขาดการวัดที่ดี ก็จะไม่สามารถดำเนินการแก้ไขที่ตรงจุดได้
ดังนั้น การนำเทคโนโลยีมาใช้กับกระบวนการสร้างความยั่งยืน จะสามารถช่วยให้องค์กรต่าง ๆเข้าใจและจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์(Carbon Footprint) ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การติดตามและคำนวณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในห่วงโซ่ธุรกิจทั้งหมดของบริษัท มีความซับซ้อนและใช้เวลามาก
เซลส์ฟอร์ซ ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud ขึ้น โดยเป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยบริษัทต่างๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ได้เร็วชึ้น ซึ่ง Net Zero Cloud เป็นเครื่องมือที่ทำให้เซลส์ฟอร์ซบรรลุเป้าหมายการเป็น Net Zero ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (value chain)และใช้พลังงานหมุนเวียน (renewable energy) 100% ในการปฏิบัติการ
วิกฤตการระบาดของโควิด-19 ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างให้เกิดความโปร่งใสเพื่อนำมาซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจ การจัดการปัญหาของวิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศก็เช่นกัน ความสำเร็จจะเกิดชึ้นไม่ได้ หากไม่มีความโปร่งใส และการสร้างความมั่นใจที่จะเปิดเผย แลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้เกิดการจัดการที่นำไปสู่จุดหมาย
เครื่องมือสำหรับทำงานร่วมกันหรือ Collaborative Tools มีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้แก่บุคลากรเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของกระบวนการสร้างความยั่งยืน ตั้งแต่การรีไซเคิลไปจนถึงการจัดรูปแบบการขนส่งและเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวยังสามารถช่วยยกระดับของเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซให้ขยายขอบเขตครอบคลุมถึงกับซัพพลายเออร์ และยังสร้างให้เกิดแผนปฏิบัติการด้านสภาพอากาศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเฉพาะ (Data Driven) ที่เหมาะสมกับแต่ละอุตสาหกรรมอีกด้วย
เมื่อองค์กรต่าง ๆ สามารถประเมินถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากแต่ละกระบวนการ การหาแนวทางที่เร็วที่สุดเพื่อไปสู่เป้าหมายในการเป็น Net Zero จึงเป็นไปได้ด้วยการวางแผนเชิงสถานการณ์และใช้การวิเคราะห์เชิงลึกประกอบกับองค์ความรู้ขององค์กรนั้น โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบสูงสุดที่องค์กรจะมีให้กับพนักงาน ลูกค้า ตลอดจนผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากการดำเนินการขององค์กร
ถึงวันนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ตระหนักดีว่าการกระทำ ค่านิยม และความสามารถในการสร้างผลกำไรของพวกเขา มีความเกี่ยวพันกันมากขึ้นอย่างแยกไม่ออก โดยในสายตาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือStakeholder และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของคนรุ่นใหม่ ตลอดจนผู้ที่จะมาเป็นลูกค้า พนักงานและคู่ค้าในอนาคต หากธุรกิจไม่สามารถให้บริการที่ให้ความใส่ใจกับโลกใบนี้ แสดงว่าธุรกิจของคุณก็ไม่ได้ให้บริการที่ให้ความใส่ใจกับพวกเขาเช่นกัน
เซลส์ฟอร์ซเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมคือ Stakeholder ที่สำคัญ ซึ่งเราสามารถร่วมมือกันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการหาทางออกในการจัดการกับสภาพภูมิอากาศของโลก ด้วยพลังของเทคโนโลยีและพลังแห่งความร่วมมือในแต่ละชุมชนและสังคม