จากกรณีดรามาคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ แคมเปญ LAZADA 5.5 ผ่าน นาราเครปกะเทย ยังคุกรุ่นและเป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงความเหมาะสมของเนื้อหาที่ส่อเหยียดคนพิการนำมาซึ่ง กระแสการติดแฮชแท็ก แบน LAZADA ร้อนแรงตลอดทั้งวัน แม้ว่าทางลาซาด้าจะสั่งปลดโฆษณาดังกล่าวออกไปแล้วก็ตาม
ล่าสุด สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อผู้เกี่ยวข้องในการจัดทำคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ แคมเปญ #LAZADA 5.5 โดยระบุว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อสาธารณะ เรื่อง คลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ แคมเปญ LAZADA 5.5 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 โดยบริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายจากบริษัท LAZADA ให้เป็นผู้ประสานงานและติดต่อจัดทำคลิปโปรโมทแคมเปญ หนึ่งในคลิปที่ได้เผยแพร่ออกไปผ่านทางบัญชี Tik Tok “นาราเครปกะเทย” ได้นำเอาตัวแสดงแต่งชุดไทยนั่งอยู่บนรถเข็นในลักษณะล้อเลียนให้เกิดความอับอายต่อสภาพร่างกายของบุคคล (Body shaming)
อีกทั้งยังมีคลิปซึ่ง “นาราเครปกะเทย” กล่าวพาดพิงถึงคนพิการว่า “คนที่ชีวิตติดลบจริงๆ คือคนที่พิการทำมาหากินไม่ได้” ซึ่งการกระทำครั้งนี้ถือเป็นการ ดูหมิ่นเหยียดหยาม ด้อยค่า ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือ คุณค่าความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) ขัดกับหลักการทำธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (Business and Human Rights) รวมทั้งเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ ซึ่งขัดกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 27 และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการอีกด้วย
ในฐานะกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มผู้ใช้สินค้า เห็นว่ากระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้และไม่สมควรที่นำสภาพความพิการมาแสดงออกตามพฤติกรรมดังกล่าว
ดังนั้น เราขอตำหนิการกระทำของกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในการแสดงพฤติกรรมและคำพูดที่ปรากฏในคลิปทั้งสองข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นผู้แสดงพรีเซนเตอร์ บริษัทเอเจนซี่ และบริษัทซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างที่ควรตรวจสอบเนื้อหาสาระให้ถี่ถ้วนก่อนการเผยแพร่เป็นการกระทำที่ขาดความระมัดระวังและตระหนักถึงสังคมในภาพรวม
สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย องค์การสมาชิกและเครือข่ายคนพิการ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่พิทักษ์สิทธิมนุษยชนของคนพิการ มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการทำธุรกิจที่ไม่เคารพสิทธิมนุษยชนทุกรูปแบบ ดังนั้น ใคร่ขอเรียกร้องให้พรีเซนเตอร์โฆษณา บริษัทเอเจนซี่และบริษัทผู้ว่าจ้างข้างต้น แสดงความรับผิดชอบด้วยการแถลงการณ์ขอโทษต่อการกระทำดังกล่าวต่อกลุ่มคนที่ถูกพาดพิงอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ รวมถึงกำหนดนโยบายการทำธุรกิจที่ไม่เลือกปฏิบัติและละเมิดสิทธิมนุษยชนร่วมกับเครือข่ายคนพิการและภาคประชาสังคม
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางลาซาด้า ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า บริษัทลาซาด้าขอใช้โอกาสนี้ในการขออภัยต่อความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอโดยอินฟลูเอนเซอร์ 'นาราเครปกะเทย' บนโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา เราเข้าใจดีว่าเนื้อหาดังกล่าวสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจต่อสังคมและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ทันทีที่เรารับทราบถึงคลิปดังกล่าว เราได้มีคำสั่งให้ถอดคลิปดังกล่าวออกทันที เพราะเนื้อหาและข้อความเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการทำงานและความเชื่อของลาซาด้าในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ให้ความเคารพต่อกันและกัน และไม่แบ่งแยก
แม้ว่าทางบริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนที่ดูแลการจัดการด้านอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงคุณนาราเครปกะเทย จะได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงในครั้งนี้เป็นผลมาจากความไม่รอบคอบของทางลาซาด้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ หากเนื้อหาในวิดีโอดังกล่าวได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน วิดีโอนี้จะไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างเแน่นอน เนื่องจากมีเนื้อหาที่ขัดต่อหลักการที่ลาซาด้ายึดถือ
ลาซาด้าขอแสดงความเสียใจอีกครั้งต่อความผิดพลาดและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เราได้ใช้เวลาในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด รวมถึงทบทวนและน้อมรับคำแนะนำและเสียงสะท้อนที่ได้รับจากทุกภาคส่วน ทีมงานของบริษัทลาซาด้า ขอใช้พื้นที่นี้ในการขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อสังคม รวมถึง ลูกค้า ผู้ขาย และพาร์ทเนอร์ของเรา
ท้ายที่สุดนี้ เราจะปรับปรุงการทำงานและกระบวนการให้รัดกุมยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต
ขณะเดียวกัน นารา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ‘นารา เครปกะเทย‘ ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า
นาราขอชี้แจงหน่อยค่ะ ในส่วนของแอพที่ได้จ้างนาราทำงานการโปรโมทโฆษณาหนึ่ง ซึ่งงานที่นาราได้มานั้นคือละครที่นาราจะเสนอออกมา โดยเนื้อเรื่อง ท่านแม่มาขโมยของนารา และจับตัวไม่ได้สรุป ท่านแม่เป็นคนเอาไป และจุดพีคของที่นาราคิดคือ แม่เดินได้ นี่คือบทละครที่นาราทำมา ไม่มีเจตนาหรือล้อเลียนใครในส่วนของคลิปนะ พูดจริงๆสาบานให้ตายว่าไม่ได้จะพาดพิงใคร(แต่รูปอะ อยู่ในใจ)และคิดว่าการแสดงแบบนี้นาราก็ไม่ได้ทำคนเดียว ยังมีอีกหลายตัวละครที่เล่าบทนี้. และทางแอพก็ไม่ได้มีส่วนในการบรีฟงานในครั้งนี้ และงานนี้เป็นงานเร่งด่วนนาราถ่ายงานพอดีเลยให้หนูรัตน์ได้ถ่ายด้วย ถ้าในส่วนของคลิปนาราตั้งใจที่จะล้อเลียนใคร นาราจะเอา momดิวมาถ่ายคลิปด้วยแล้ว แต่นี้เจตนาของนารา คือ หนูรัตน์ที่เล่นเป็นแม่และขโมยของแค่นั้น