ช้อปปิ้งมอลล์ติดทะเลแห่งแรก เซ็นทรัลควัก 3,000 ล้านพร้อมเปิดปลายปีนี้

10 พ.ค. 2565 | 09:35 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ค. 2565 | 16:39 น.

กลุ่มเซ็นทรัล ทุ่ม 3,000 ล้านปั้นรีเทลโมเดลใหม่ “Wongamat Beach Village” ศูนย์การค้าริมชายหาด ติดทะเลแห่งแรกของไทย พร้อมเปิดบริการ ธ.ค. 65

พัทยาถือเป็น 1 ใน 5 เมืองที่มีการเติบโตมากที่สุดในประเทศไทย และต้องยอมรับว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาและเติบโตทางโครงสร้างพื้นฐานรอบด้าน เพื่อรองรับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เป็นการตอกย้ำว่าวัน “เมืองพัทยา” ไม่ใช่เป็นเพียงเมืองท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นเดสติเนชั่นทั้งด้านการค้าและลงทุนด้วย

 

นายพงศ์ ศกุนตนาค  กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า นโยบายของกลุ่มเซ็นทรัล ในการลงทุนโครงการต่างๆจะคำนึงถึง 2 ประเด็น ได้แก่ 1. ต้องมีกำไร ทั้งในส่วนของเจ้าของและผู้มีส่วนร่วม และ2. ต้องมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน สินค้าต้องมีความแตกต่างจากคู่แข่ง รวมถึงบริษัทในเครือ เช่นเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเป็นผู้บริหารศูนย์การค้าด้วย

วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ

ขณะที่การลงทุนในพื้นที่ชลบุรี ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัล เล็งเห็นถึงการพัฒนาและเติบโตทางโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้านและต่อเนื่องของเมืองพัทยาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงมีแผนทุ่มงบลงทุนราว 3,000 ล้านบาทในการสร้างค้าปลีกรูปแบบใหม่ขึ้นเป็นแห่งแรกในเมืองไทย

 

โดยโครงการ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ (Wongamat Beach Village) ยูนีค เนเชอรัล บีช ปาร์ค แอนด์ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ (Unique Natural Beach Park and Lifestyle Mall) จะแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 เฟส โดยเฟส 1 และเฟส 2 บนพื้นที่ราว 13 ไร่ จะรวมร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอ็นด์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มาท่องเที่ยวในย่านวงศ์อมาตย์  เริ่มก่อสร้างในเดือนมิ.ย. และแล้วเสร็จในเดือนธ.ค. นี้  ส่วนที่ดินอีกกว่า 50 ไร่ จะถูกพัฒนาเป็นเฟส 3 ในอนาคต

พงศ์ ศกุนตนาค

ทั้งนี้ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ด้วยรูปแบบที่แตกต่างและเป็นมอลล์ แห่งแรกและแห่งเดียวที่ติดริมทะเล ที่รวมร้านค้า 29 แบรนด์ชั้นนำ และพื้นที่สีเขียวกว่า 75%  พร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปงานศิลปะและงานคราฟท์ (Art & Craft Workshop) กิจกรรมกีฬาทางน้ำและบนชายหาด (Sport & Beach Activity) และกิจกรรมความบันเทิง (Entertainment) อื่นๆ ในรูปแบบศิลปะ (Creative & Arts Culture) ที่รายล้อมอยู่รอบโครงการอีกด้วย

 

“กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ จะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งรวมทั้งคนในพื้นที่ คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่พัทยา และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว รวมถึงกลุ่มคู่รัก กลุ่มเพื่อน โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการอย่างน้อย 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดการณ์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวเมืองพัทยาที่อยู่ที่เกือบ 16 ล้านคน ในปี 2562”

วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ

นายพงศ์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และช่วยสร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่เมืองพัทยา และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของโลก ตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐอีกด้วย