ถือเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ด้วยการพัฒนากลยุทธ์และนวัตกรรมธุรกิจของทีมนักยุทธศาสตร์ (Business Creator) ที่ร่วมกันมองหาไอเดีย คิดนอกกรอบ ต่อยอดความสำเร็จจากความแข็งแกร่งเดิม นำนวัตกรรมและไอเดียไปต่อยอดสร้างโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่
ล่าสุด “สยามพิวรรธน์” ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม เปิดตัวทีมกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ภายใต้ชื่อ “กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กรที่เป็นผู้นำของกลุ่มนวัตกรรมธุรกิจ” หรือ Think Tank พร้อมเดินหน้ายุทธศาสตร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในอนาคตอย่างไร้ขีดจำกัด
โดยกลุ่มงานกลยุทธ์องค์กรที่เป็นผู้นำของกลุ่มนวัตกรรมธุรกิจ” หรือ Think Tank ประกอบด้วย
ชนิสา แก้วเรือน Head of Corporate Strategy Group ผู้บริหารกลุ่มงานกลยุทธ์องค์กรที่เป็นผู้นำของกลุ่มนวัตกรรมธุรกิจ (Think Tank) กล่าวว่า สยามพิวรรธน์ คือเจ้าแห่งประสบการณ์ที่สร้างแพลตฟอร์มนำเสนอความแปลกใหม่ ทั้งบนโลกจริงและโลกเสมือนจริง เราดำเนินธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ สร้างประสบการณ์แรกให้เกิดขึ้นกับศูนย์การค้าในเครือจนได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย
แต่ด้วยรูปแบบการแข่งขันของโลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้เรา ไม่สามารถยึดติดอยู่กับความสำเร็จเดิม ต้องคิดไปไกลกว่าธุรกิจรีเทล นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพลิกเกม เติมเต็มประสบการณ์เหนือความคาดหมายในโลกใหม่ มองหา New Growth Engine และต่อยอดสู่การสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่สรณียา จักกะพาก Business Development - Special Business Division กล่าวว่า ผลงานที่โดดเด่นและวิสัยทัศน์ในการสร้างประสบการณ์แบบพิเศษของสยามพิวรรธน์ ช่วยสร้างโอกาสในการร่วมงานกับบุคคลระดับโลกในหลากหลายสาขา และทำให้ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานที่มีคุณค่ามหาศาล รางวัลอันทรงเกียรติที่ Blue by Alain Ducasse ได้รับเป็นสุดยอดรางวัลแห่งวงการอาหารระดับโลกถือเป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของทีมงานเพื่อตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงเรื่องอาหารที่เยี่ยมยอดแห่งหนึ่งของโลก
สาลวิท สุวิพร Creative Innovation Strategist (Think Tank) กล่าวว่า Innovative strategist คือการใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นจุดเริ่มและมองหาไอเดียใหม่ๆ ผู้เล่นใหม่ๆ สู่การทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่มีพรมแดน วันนี้สยามพิวรรธน์กำลังก้าวเข้าสู่ Metaverse โลกเสมือนจริง โดยมุ่งขยายฐานลูกค้าสู่ Global Citizen นับเป็นความท้าทายที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของเราอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่พลวุฒิ บูรณะกิจ Strategic Investment & New Economy ย้ำว่า การมองหาธุรกิจใหม่ที่ทำจะทำให้สยามพิวรรธน์ก้าวไปได้ไกลกว่าโมเดลธุรกิจหลัก คือการมองหาธุรกิจที่แปลกใหม่ แตกต่าง มาสร้างสรรค์เป็นจักรวาลแห่งประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุด และสามารถพัฒนาสู่ business model ที่เป็นจริงและทำเงินได้ ซึ่งเป็น jigsaw สำคัญ ที่จะทำให้สยามพิวรรธน์ประสบความสำเร็จทั้งชื่อเสียง รายได้ และการเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้านโจเซฟ เทียว Business Development & Strategist กล่าวว่า โลกของธุรกิจรีเทลยังคงพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้งทั้งในด้านดิจิทัลและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เป้าหมายของเราคือ การสร้างความมั่นใจว่า เราได้สร้างโมเดลธุรกิจที่สามารถปรับเปลี่ยนได้และคิดค้นโซลูชันแบบสร้างสรรค์ ที่ตอบความต้องการของร้านค้าชั้นนำระดับโลกและกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงให้ดียิ่งขึ้น
ศิวาภรณ์ เอี่ยมแก้ว Partnership Strategist กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า การดำเนินธุรกิจสู่อนาคต ที่จะช่วยให้เรารับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน คือการเชื่อมไอเดียความคิดแปลกใหม่ทำให้เกิดขึ้นจริง การผนึกพันธมิตรที่ใช่จึงกลายเป็นกลยุทธ์หลักที่จะช่วยเข้ามาเติมเต็มช่องว่าง และร่วมกันคิดทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“การทำธุรกิจในรูปแบบของสยามพิวรรธน์ต้องจับเทรนด์เร็ว และนำมาสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สยามพิวรรธน์เชื่อในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่เชื่อมโยงความต้องการของผู้คน กับการทำธุรกิจที่เติบโตสร้างรายได้ สู่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นที่หนึ่งในใจผู้คน” อมัจจ์ สมบูรณ์เจริญ Creative Brand Strategist
สุดท้าย “อมร มงคลแก้วสกุล” Creative Content & Design Strategist กล่าวว่า ประสบการณ์ในฐานะสถาปนิกและนักออกแบบทำให้เราจับพฤติกรรมผู้บริโภคได้ล่วงหน้า พร้อมคิดฟังก์ชันมารองรับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดธุรกิจทั้งในโลกจริงและออนไลน์สู่ความยั่งยืน เพราะมากกว่าการจับจ่ายใช้สอย คือไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับโลกใบนี้