บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เพื่อปฎิบัติให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และสร้างธรรมาภิบาลด้านการบริหารจัดการ โดยมุ่งหมายยกระดับหลักการธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ของบริษัท คาราบาวกรุ๊ป ตลอดจนเป็นการสอดคล้องกับประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าด้วย หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2565 ประชุมวันที่ 13 พ.ค. 2565ได้มีมติที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. รับทราบการลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ ของนายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป หลังการลาออกจากประธานกรรมการ นายเสถียร ยังคงดำรงตำแหน่ง กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท
2. ที่ประชุมฯ มีมติแต่งตั้งนางสาวณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ เป็นประธานกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งที่ประชุมฯ ได้พิจารณากลั่นกรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งคุณสมบัติความเหมาะสมในหลายๆ ด้าน โดยก่อนหน้านี้นางสาวณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ ดำรงตำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการ และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่แรก จึงมีความรู้ความสามารถในธุรกิจเป็นอย่างดีทั้งนี้โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 คาราบาว กรุ๊ป มีกำไรสุทธิ 660.25 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 700.20 ล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนผสมผลิตภัณฑ์ตามยอดขาย (Product mix) ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบและหีบห่อในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัท ดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองตามที่กล่าวข้างต้น
บริษัทมีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 1,466 ล้านบาท ลดลง 5.7% คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30.7% ลดลงจากอัตรากำไรขั้นต้น 38.6 %ในช่วงระยะเวลาเดียวกันปีก่อนหน้าจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนผสมผลิตภัณฑ์ตามยอดขาย (Product mix) กล่าวคือ สัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ดำเนินการผลิตด้วยตนเอง
โดยเป็นธุรกิจหลักปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 62.5% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 78.2%ของรายได้จากการขายรวม ประกอบกับบริษัทมีต้นทุนวัตถุดิบและหีบห่อที่ใช้ในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของราคาอลูมิเนียม
บริษัทมีรายได้จากการขายรวมเท่ากับ 4,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% โดยในจำนวนนี้บริษัทมีรายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกเท่ากับ 1,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.7%จากประสิทธิภาพการกระจายผ่านช่องทางหน่วยรถเงินสด
ประกอบกับคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบพัฒนาการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รายได้อื่นเท่ากับ 257 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 305.9% จากการผลิตและจำหน่ายขวดแก้วที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ให้แก่บริษัทคู่ค้า ชดเชยการปรับตัวลดลงของรายได้จากการขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง
“เสถียร เศรษฐสิทธิ์” ถือเป็นผู้บุกเบิกและสร้างชื่อให้กับ “คาราบาว กรุ๊ป” โดยนำทัพพา “คาราบาวแดง” รั้งตำแหน่ง Top 3 ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเมืองไทย และยังโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะการเป็นผู้สนับสนุนหลัก "คาราบาวคัพ" ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน พร้อมการขยายตลาดในอังกฤษและยุโรป จนประสบความสำเร็จ
ล่าสุด “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” ยังได้รับรางวัล Best CEO Award ของ SET ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ในการประกาศรางวัล SET Awards 2021 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ด้วย