เปิดใจ“ธรรศพลฐ์”ทำไมดัน“ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” ยื่นฟื้นฟูกิจการ

ล่าสุดสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” ได้ยื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และศาลล้มละลายกลาง มีมติรับคำร้อง และกำหนดวันนัดไต่สวนในวันที่ 22 สิงหาคม 2565 โดยนับว่าเป็นสายการบินรายที่ 3 ของไทย ที่ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ต่อจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทสายการบิน นกแอร์ จำกัด (มหาชน)  หลังจากไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้หยุดให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ทุกเส้นทางมาตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 จากผลกระทบของโควิด-19

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ผู้ถือหุ้นบริษัทไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การตัดสินใจนำ “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ จริงๆเราก็คิดเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว  เพราะมองว่าเป็นวิธีในการปรับโครงสร้างทางการเงินในอีกรูปแบบหนึ่ง  และขณะนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุด เพราะตอนแรกเราเข้าใจว่าประเทศน่าจะเปิดได้เร็วกว่านี้คือตั้งแต่ช่วงต้นปี จนผ่านมาครึ่งปี สายการบินจึงจะกลับมาเริ่มทำการบินได้ในเดือนมิถุนายนนี้ ในเส้นทางเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

การเข้าฟื้นฟูกิจการ จึงเป็นการปรับโครงสร้างให้รายจ่ายมีความสัมพันธ์กับรายรับที่จะเกิดในอนาคตจากที่สายการบินจะเริ่มทยอยกลับมาเปิดบินได้อีกครั้ง  หลังจากที่ผ่านมาหยุดบินไปร่วม 2 ปีครึ่ง เนื่องจากไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เป็นสายการบินต้นทุนต่ำระยะไกลที่ทำการบินเฉพาะเส้นทางบินต่างประเทศเท่านั้น แม้เราต้องหยุดบินไป แต่ค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่มีอยู่กว่า 1 พันคน ค่าเช่าเครื่องบินก็ยังเดินอยู่ หนี้ส่วนใหญ่เป็นค่าเช่าเครื่องบิน ซึ่งสายการบินมีฝูงบินจำนวน 8 ลำ มีมูลหนี้รวมอยู่ในระดับหลักหมื่นล้านบาท

ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ก็จะทำให้สายการบินมีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้  ทำให้เราปรับหนี้ให้เหมาะสมกับรายรับ รวมไปถึงแผนการเพิ่มทุนที่จะตามมา และการขยายฝูงบินเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ซึ่งทุกอย่างจะอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ ที่ทางผู้ถือหุ้นได้เตรียมผู้บริหารแผนฟื้นฟูไว้หมดแล้ว คาดว่าจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการภายในเวลาไม่เกิน 6 เดือน หรือ 1 ปี

“ถ้าเราเข้าแผนฟื้นฟูเร็วกว่านี้ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับมาบินได้เมื่อไหร่ แล้วรายรับจะเข้ามาเป็นอย่างไร จะไปเจรจาผ่อนชำระหนี้ได้อย่างไร แต่ตอนนี้เมื่อแผนการเปิดให้บริการมีความชัดเจนแล้ว การเข้าแผนฟื้นฟูในเวลานี้จึงเหมาะสมที่สุด และขอยืนยันว่าแม้ไทยแอร์เอเชีย จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่แผนในการเปิดให้บริการก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่สะดุด”

โดยในระยะแรกไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะกลับมาให้บริการอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2565 เริ่มต้น 2 เส้นทางแรกก่อน คือ บินตรงสู่โซล ประเทศเกาหลีใต 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มบินวันที่ 1 มิ.ย.นี้ และโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ และต่อไปก็จะขยายเส้นทางบินเพิ่ม ไปยัง โอซาก้า นาโกยา  ซิโตะเซะ ซึ่งเป้าหมายคือจะกลับมาทำการบินในทุกเส้นทางบินที่สายการบินเคยเปิดให้บริการก่อนเกิดโควิด-19

ส่วนการกลับมาเปิดบินอีกครั้งของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ในครั้งนี้ ที่ได้ย้ายฐานปฏิบัติการจากสนามบินดอนเมืองมาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิแทน มาจาก 3 เหตุผล ได้แก่ 1.การให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะทำให้สายการบินให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศหรือคาร์โก้ ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาคาร์โก้ก็ทำรายได้ได้พอสมควร 2.ทำให้สายการบินสามารถทำการบินรหัสร่วม (โค้ดแชร์) กับสายการบินอื่นได้ด้วย ทั้งเที่ยวบินคาร์โก้และเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสาร และ 3.ผู้โดยสารสามารถใช้บริการดิวตี้ฟรีที่สนามบินสุวรรณภูมิที่มีสินค้าหลากหลายมากขึ้นด้วย นายธรรศพลฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับการยื่นฟื้นฟูกิจการของบริษัทไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จำกัด ได้มีการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 17 พฤษาคม 2565 และเมื่อวันที่ 18 พฤษาภาคม 2565 ศาลล้มละลายกลาง ได้รับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว โดยนัดไต่สวนวันที่ 22 สิงหาคม 2565

ส่วนผู้ถือหุ้นของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ประกอบไปด้วย บริษัท เร้ดเอวิเอชั่น จำกัด 49.56 % (ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์)  แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เบอร์ฮัด (มาเลเซีย) 49.00% นายปฐมภพ ชื่นพาณิชย์กิจ 0.72% นาย กฤษฎา วงศ์จันทร์ดา 0.36%  และนายสุริยา เทพาคำ 0.36%