ในขณะที่รัฐบาลไทยกำลังเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรก่อนปิดสมัยประชุม
ฐานเศรษฐกิจได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโมเดลการบริหารจัดการกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นต้นแบบที่รัฐบาลไทยศึกษาและอ้างอิงในการออกแบบกฎหมายฉบับนี้
สิงคโปร์มีกฎหมายควบคุมการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนที่เข้มงวด โดยอยู่ภายใต้ The Gambling Regulatory Authority of Singapore Act (GRA Act) และ The Gambling Control Act (GC Act) ที่ตราขึ้นในปี 2022 ซึ่งมีองค์กรกำกับดูแลคือ Gambling Regulatory Authority of Singapore (GRA) เป็นผู้ควบคุมและออกใบอนุญาต
จุดเด่นของโมเดลสิงคโปร์คือการจำกัดจำนวนใบอนุญาตกาสิโนไว้เพียง 2 ใบเท่านั้น โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการ 1 รายต่อ 1 ใบอนุญาตเท่านั้น พร้อมกำหนดเงื่อนไขการถือหุ้นของผู้ประกอบการอย่างเข้มงวด โดยห้ามลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือไปถือหุ้นในกาสิโนอื่นภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจาก GRA
มารีน่าเบย์แซนด์" (Marina Bay Sands) ในสิงคโปร์
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีมีมูลค่าสูงถึง 28.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 760 ล้านบาท) สำหรับกรณีมีกาสิโน 1 แห่ง และ 24 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 635 ล้านบาท) ต่อแห่งในกรณีมีกาสิโน 2 แห่ง โดยใบอนุญาตจะมีอายุตามที่กำหนดและห้ามโอนแก่ผู้อื่นหรือนำไปใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้
สิงคโปร์มีระบบการจัดเก็บภาษีจากกาสิโนแบบสองอัตรา โดยเก็บที่ร้อยละ 12 ของรายรับในแต่ละเดือนสำหรับส่วนที่ได้จากผู้เล่นระดับพรีเมียม และร้อยละ 22 สำหรับผู้เล่นทั่วไป ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสรรพากรสิงคโปร์ ภาษีที่เก็บได้จะนำส่งเข้ากองทุน Singapore Totalizator Board เพื่อนำไปใช้จ่ายในกิจการเพื่อสังคม
สิงคโปร์มีมาตรการสำคัญในการป้องกันปัญหาจากการพนัน โดยเฉพาะสำหรับพลเมืองของตน ดังนี้
ห้ามผู้เยาว์อายุน้อยกว่า 21 ปีเข้าใช้บริการกาสิโนโดยเด็ดขาด
พลเมืองสิงคโปร์หรือผู้พำนักในสิงคโปร์ต้องชำระค่าเข้าใช้บริการในอัตรา 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 4,000 บาท) ต่อวัน หรือ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 53,000 บาท) สำหรับค่าเข้าใช้รายปี
มีการจัดตั้งสภาแก้ไขปัญหาการติดพนันแห่งชาติ (National Council on Problem Gambling หรือ NCPG)
ครอบครัวสามารถยื่นคำขอให้ออกคำสั่งห้ามหรือจำกัดจำนวนการเข้าใช้บริการ (Family exclusion order) ได้
บุคคลสามารถจำกัดตนเองโดยสมัครใจ (Voluntary application for visit limit)
GRA มีอำนาจควบคุมทั้งการจ้างพนักงาน โดยพนักงานบางประเภทต้องได้รับอนุญาตพิเศษ เช่น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงิน หรือมีอำนาจตัดสินใจ รวมถึงการควบคุมสัญญาทางธุรกิจ การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจาก GRA ก่อน
นอกจากนี้ ยังห้ามผู้ประกอบการให้ยืมเงินหรือให้กู้ยืมเงินโดยใช้บัตรเครดิต และห้ามจัดทำข้อตกลงด้านการตลาดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองสิงคโปร์หรือผู้พำนักในสิงคโปร์
ขณะที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โมเดลของสิงคโปร์สะท้อนให้เห็นว่า การประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการกาสิโนต้องอาศัยมาตรการควบคุมที่เข้มงวด การจำกัดจำนวนใบอนุญาตอย่างชัดเจน และมาตรการป้องกันผลกระทบต่อพลเมืองที่เป็นรูปธรรม
คำถามสำคัญสำหรับประเทศไทยคือ จะสามารถนำโมเดลการควบคุมที่เข้มงวดเช่นนี้มาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และจะสร้างความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับการป้องกันผลกระทบทางสังคมได้อย่างไร