thansettakij
เจาะโมเดลสถานบันเทิงครบวงจร สิงคโปร์ ภาษีสูง คุมเข้มพลเมืองติดพนัน

เจาะโมเดลสถานบันเทิงครบวงจร สิงคโปร์ ภาษีสูง คุมเข้มพลเมืองติดพนัน

02 เม.ย. 2568 | 11:35 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2568 | 11:43 น.

เปิดเบื้องหลังโมเดลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์  กาสิโนถูกกฎหมาย ของสิงคโปร์ จำกัดเพียง 2 ใบอนุญาต พร้อมกลไกควบคุมเข้มงวด อัตราภาษีสูงถึง 22% พร้อมมาตรการป้องกันปัญหาการติดพนันของพลเมือง บทเรียนสำคัญก่อนไทยเดินหน้า พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร

ในขณะที่รัฐบาลไทยกำลังเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรก่อนปิดสมัยประชุม

ฐานเศรษฐกิจได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโมเดลการบริหารจัดการกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นต้นแบบที่รัฐบาลไทยศึกษาและอ้างอิงในการออกแบบกฎหมายฉบับนี้

สิงคโปร์มีกฎหมายควบคุมการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนที่เข้มงวด โดยอยู่ภายใต้ The Gambling Regulatory Authority of Singapore Act (GRA Act) และ The Gambling Control Act (GC Act) ที่ตราขึ้นในปี 2022 ซึ่งมีองค์กรกำกับดูแลคือ Gambling Regulatory Authority of Singapore (GRA) เป็นผู้ควบคุมและออกใบอนุญาต

จำกัดแค่ 2 ใบอนุญาต พร้อมค่าธรรมเนียมแพง

จุดเด่นของโมเดลสิงคโปร์คือการจำกัดจำนวนใบอนุญาตกาสิโนไว้เพียง 2 ใบเท่านั้น โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการ 1 รายต่อ 1 ใบอนุญาตเท่านั้น พร้อมกำหนดเงื่อนไขการถือหุ้นของผู้ประกอบการอย่างเข้มงวด โดยห้ามลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือไปถือหุ้นในกาสิโนอื่นภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจาก GRA

มารีน่าเบย์แซนด์" (Marina Bay Sands) ในสิงคโปร์ มารีน่าเบย์แซนด์" (Marina Bay Sands) ในสิงคโปร์

ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีมีมูลค่าสูงถึง 28.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 760 ล้านบาท) สำหรับกรณีมีกาสิโน 1 แห่ง และ 24 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 635 ล้านบาท) ต่อแห่งในกรณีมีกาสิโน 2 แห่ง โดยใบอนุญาตจะมีอายุตามที่กำหนดและห้ามโอนแก่ผู้อื่นหรือนำไปใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้

ภาษีกาสิโนแยกตามระดับผู้เล่น

สิงคโปร์มีระบบการจัดเก็บภาษีจากกาสิโนแบบสองอัตรา โดยเก็บที่ร้อยละ 12 ของรายรับในแต่ละเดือนสำหรับส่วนที่ได้จากผู้เล่นระดับพรีเมียม และร้อยละ 22 สำหรับผู้เล่นทั่วไป ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสรรพากรสิงคโปร์ ภาษีที่เก็บได้จะนำส่งเข้ากองทุน Singapore Totalizator Board เพื่อนำไปใช้จ่ายในกิจการเพื่อสังคม

มาตรการคุ้มครองพลเมืองและป้องกันการติดพนัน

สิงคโปร์มีมาตรการสำคัญในการป้องกันปัญหาจากการพนัน โดยเฉพาะสำหรับพลเมืองของตน ดังนี้

  1. ห้ามผู้เยาว์อายุน้อยกว่า 21 ปีเข้าใช้บริการกาสิโนโดยเด็ดขาด

  2. พลเมืองสิงคโปร์หรือผู้พำนักในสิงคโปร์ต้องชำระค่าเข้าใช้บริการในอัตรา 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 4,000 บาท) ต่อวัน หรือ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 53,000 บาท) สำหรับค่าเข้าใช้รายปี

  3. มีการจัดตั้งสภาแก้ไขปัญหาการติดพนันแห่งชาติ (National Council on Problem Gambling หรือ NCPG)

  4. ครอบครัวสามารถยื่นคำขอให้ออกคำสั่งห้ามหรือจำกัดจำนวนการเข้าใช้บริการ (Family exclusion order) ได้

  5. บุคคลสามารถจำกัดตนเองโดยสมัครใจ (Voluntary application for visit limit)

ควบคุมเข้มทุกด้าน ตั้งแต่พนักงานถึงโฆษณา

GRA มีอำนาจควบคุมทั้งการจ้างพนักงาน โดยพนักงานบางประเภทต้องได้รับอนุญาตพิเศษ เช่น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงิน หรือมีอำนาจตัดสินใจ รวมถึงการควบคุมสัญญาทางธุรกิจ การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจาก GRA ก่อน

นอกจากนี้ ยังห้ามผู้ประกอบการให้ยืมเงินหรือให้กู้ยืมเงินโดยใช้บัตรเครดิต และห้ามจัดทำข้อตกลงด้านการตลาดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองสิงคโปร์หรือผู้พำนักในสิงคโปร์

ขณะที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โมเดลของสิงคโปร์สะท้อนให้เห็นว่า การประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการกาสิโนต้องอาศัยมาตรการควบคุมที่เข้มงวด การจำกัดจำนวนใบอนุญาตอย่างชัดเจน และมาตรการป้องกันผลกระทบต่อพลเมืองที่เป็นรูปธรรม

คำถามสำคัญสำหรับประเทศไทยคือ จะสามารถนำโมเดลการควบคุมที่เข้มงวดเช่นนี้มาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และจะสร้างความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับการป้องกันผลกระทบทางสังคมได้อย่างไร