การผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าไทยในปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อยกเลิก Test & Go ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเริ่มขยับตัวขึ้นสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-11 พฤษภาคม 2565 ไทยมีจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศแล้วกว่า 966,686 ล้านคน ทำให้คาดว่าภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 1 ล้านคน
ถือว่าแซงหน้าปีที่ผ่านมาไปแล้ว จากในปี2564 ที่ตลอดทั้งปีไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยอยู่ที่ 427,869 คน อีกทั้งหากรัฐบาลยกเลิก Thailand Pass ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตลอดปี 2565 ให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 8-10 ล้านคน
ท่องเที่ยวปัจจัยหนุนปีนี้
สอดคล้องกับข้อมูลของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่มองว่าภาคการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหลักสนับสนุนเศรษฐกิจในปีนี้ จากการผ่อนปรนมาตรการอย่างต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากในไตรมาสที่ผ่านมา รวมทั้งเที่ยวบินที่ปรับเพิ่มอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ไตรมาส4 ของปีที่แล้ว อีกทั้งสศช.ยังประเมินว่า หากไทยยังมีระบบ Thailand Pass อยู่แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ราว 7 ล้านคน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเข้ามามากช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
สำหรับการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 1 ปี2565 มีการขยายตัวสูงขึ้นทั้งในส่วนของไทยเที่ยวไทยและต่างชาติเที่ยวไทย โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ 1.44 แสนล้านบาท ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาส หรือ 63.8%
ส่วนช่วงไตรมาส1 ปีนี้ต่างชาติเที่ยวไทย 497,693 คน สูงขึ้นหากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 20,172 คน มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 36.15% สูงกว่า 26.25% ในไตรมาสก่อนหน้า และสูงกว่า 16.15% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โรงแรม-สายการบินธุรกิจขยับ
การขยายตัวขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นแม้อาจจะยังเทียบไม่ได้กับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แต่ถือว่าสูงขึ้นกว่าปี2564 มาก ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและสายการบินเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยส่วนใหญ่ต่างมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 1 ปี2565 ทำให้เริ่มเห็นการขาดทุนในการดำเนินธุรกิจที่ลดลงหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ไม่ว่าจะเป็น “การบินไทย” ที่ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 8,962 ล้านบาท เนื่องจากสามารถกลับมาเปิดบินระหว่างประเทศได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ “ไทยแอร์เอเชีย” (บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด : TAA) ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1,020.4 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้ TAA สามารถเพิ่มเที่ยวบินเป็น 11,002 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น32% แม้จะมีต้นทุนน้ำมันจะสูงขึ้นกว่า 61%
ไมเนอร์ กรุ๊ป ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1,629 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จากการดำเนินงานเติบโตมากกว่า 5 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ในเกือบทุกภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดหลักของโรงแรม CENTEL ขาดทุน 43.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ที่ 475.7 ล้านบาท และเริ่มเห็นการกลับมาทำกำไรของบางโรงแรมแล้ว อย่าง แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือ AWC ที่พลิกจากขาดทุนมาทำกำไรอยู่ที่ 645.1 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 200%
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 ถือว่าธุรกิจการท่องเที่ยวเเละธุรกิจสายการบินได้รับสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่อง ทั้งตลาดคนไทยและต่างชาติ จากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าไทย โดยเส้นทางบินภายในประเทศ ปัจจุบันสายการบินส่วนใหญ่กลับมาให้บริการเกือบครบทุกเส้นทาง 100% แล้ว โดยมีการปรับปริมาณที่นั่งเเละความถี่เที่ยวบินให้เหมาะสมกับความต้องการเดินทางในเเต่ละช่วงฤดูกาลเดินทาง ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศ ปัจจุบันบางสายการบินเริ่มเปิด ให้บริการบ้างแล้วประมาณ 10- 20% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19
ส่วนในช่วง 8 เดือนที่เหลือของปีนี้ คาดว่าหลายๆ สายการบินจะเริ่มให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศมากขึ้น รวมถึงการเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะหลังจากที่รัฐบาลประกาศยกเลิกระบบ Test & Go โดยเฉพาะเส้นทางที่น่าจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มัลดีฟส์
ปี 2565 ถือเป็นปีเเห่งการฟื้นตัว โดยเฉพาะเส้นทางภายในประเทศ ปี 2566 อาจจะเป็นปีที่เราจะเห็นภาพเส้นทางบินระหว่างประเทศกลับมาคึกคักใกล้เคียงกับก่อนสถานการณ์โควิด หากประเทศต่างๆ มีนโยบายเปิดประเทศเต็มตัว มีโอกาสสูงที่จะได้เห็นการกลับมาให้บริการทุกเส้นทางครบ 100% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์นโยบายของเเต่ละสายการบิน ความพร้อมของฝูงบินเเละพนักงาน
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเพิ่มขึ้นจากอัตราการเข้าพักในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการในตลาด High-to-Luxury ที่ถือเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิตามงบการเงิน 645 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 %
รุกเจาะตลาดตะวันออกกลาง
สำหรับการทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะเน้นบุกตลาดตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำททท.และภาคเอกชนร่วมงาน อาระเบียบ ทราเวล มาร์ท ที่ดูไบ ซึ่งผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกรายมีการนัดหมายธุรกิจโดยเฉลี่ย 128 นัดหมายต่อราย หรือกว่า 3,000 นัดหมายตลอดระยะเวลา 4 วันคาดว่า สร้างรายได้ตลอดทั้งปี 1,000 ล้านบาท
ทั้งททท.จะออกแคมเปญกับสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กระตุ้นการขายร่วมกัน ตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ และหารือเตรียมการจัดกิจกรรมโกลเบิ้ล แคมเปญ เน้นเจาะนักท่องเที่ยวในตลาดระยะไกลจากภูมิภาคยุโรป ที่จะเดินทางมาชมฟุตบอลโลก World Cup 2022 ในเดือนพ.ย.นี้ ให้เดินทางท่องเที่ยวต่อจากการชมฟุตบอลโลกเดินทางมาไทย และจัดโรดโชว์ต่อไปยังซาอุดิอาระเบียด้วย ซึ่งมีธุรกิจท่องเที่ยวจากไทยจำนวน 67 รายร่วมเดินทางไปโปรโมทการท่องเที่ยวของไทย หลังจากมีการเปิดความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศกลับขึ้นมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ททท.ยังได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัท Almosafer ซึ่งเป็น OTA รายใหญ่ที่สุดของตลาดซาอุดีอาระเบีย และคูเวต ที่ครองส่วนแบ่งตลาดติด 1 ใน 3 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งนับตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียนอนุญาตอย่างเป็นทางการให้พลเมืองเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2565ที่ผ่านมา พบว่ามีการคุ้นหาข้อมูลการเดินทางมาเที่ยวไทยผ่านเว็บไซต์ของ Almosafer เพิ่มขึ้นมากกว่า 470% และในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีการค้นหาข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็น 1,100% โดยทันทีเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปี
รวมถึงการลงนามบันทึกความร่วมมือ ร่วมกับสายการบิน Saudia สายการบินแห่งชาติซาอุดีอาระเบียในการดึงกลุ่มนิซมาร์เก็ต อาทิ กลุ่มลักชัวรี กลุ่มเฮลท์แอนด์เวลเนส มาเที่ยวเมืองไทย การขอให้สายการบินพิจารณาเปิดเส้นทางบินเพิ่มเติม เช่น เส้นทางบินตรงจากซาอุดีอาระเบีย-ภูเก็ต นอกจากนี้รมว.ท่องเที่ยวยังจะผลักดันให้เกิดฮาลาล ทัวริสซึม โดยส่งเสริมให้แต่ละจังหวัดมีศูนย์ฮาลาล ฟู้ด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมอีกด้วย