ล่าสุดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. ได้ทบทวนประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศระลอกใหม่ ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ เดือนมิถุนายน 2565 หลังจากได้มีการจัดทำประมาณการการจราจรทางอากาศก่อนหน้านี้ ณ เดือนตุลาคม 2564 ซึ่งหลังจากนั้น พบว่ามีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเดินทางของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ใน 2 เรื่อง ได้แก่
1.ปัจจัยเชิงนโยบาย ได้แก่ นโยบายการเปิดประเทศที่รับผลกระทบจากการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2564 อันมีผลต่อการปรับลดตารางการบิน (slot) ของสายการบินและอัตราบรรทุกที่ลดลง
2.ปัจจัยภายนอก ซึ่งได้แก่นโยบายการเปิดประเทศของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหาสงครามในยูเครน
จากเหตุผลดังกล่าว AOT จึงมีความจำเป็นต้องทบทวนประมาณการปริมาณจราจรทางอากาศให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยใช้ฐานผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริงในปี 2565 ประกอบกับข้อมูลการขอจัดสรรตารางการบินฤดูหนาวในเดือนตุลาคม 2565 (ฤดูกาลท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2566) ที่ยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเที่ยวบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้จากการประมาณการล่าสุดฉบับเดือนมิถุนายน 2565 คาดว่าการฟื้นตัวของผู้โดยสารในปีงบประมาณ 2565 จะมีผู้โดยสารรวม 45 ล้านคน เที่ยวบิน 400,000 เที่ยวบิน ฟื้นตัวคิดเป็นร้อยละ 33 และ 45 เมื่อเทียบกับก่อน Covid 19 ตามลำดับ คาดว่าผู้โดยสารในปีงบประมาณ 2566 และ 2567 มีจำนวน 96 ล้านคน และ 142 ล้านคน การฟื้นตัวคิดเป็น ร้อยละ 68 และ 99 ตามลำดับ สำหรับเที่ยวบินในปีงบประมาณ 2566 และ 2567 คาดว่ามีจำนวน 665,000 เที่ยวบิน และ 892,000 เที่ยวบิน การฟื้นตัวคิดเป็นร้อยละ 74 และ 99 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามการทบทวนประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศยังคงมีหลายปัจจัยสำคัญที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ นโยบายการเปิดประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน โอกาสการกลับมาระบาดของ Covid 19 สายพันธุ์ใหม่ หรือโรคระบาดอื่นๆ ตลอดจนผลกระทบของสงครามรัสเซียยูเครนเป็นสำคัญต่อไป