หลังบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ประกาศปรับขึ้นราคา 1 บาทเป็น 7 บาท จากเดิมราคา 6 บาท ด้วยสาเหตุที่ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ทั้งราคาวัตถุดิบ รวมถึงค่าขนส่ง แต่กระทรวงพาณิชย์ ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาเดิมไว้ก่อน ทำให้เครือสหพัฒน์ บริษัทคอนซูเมอร์ยักษ์ใหญ่ของไทยต้องเร่งเจรจาเพื่อขอปรับราคาอย่างหนัก แต่ล่าสุด “มาม่า” ได้ออกทางใหม่ โดยเตรียมส่งซีรีย์ใหม่ออกวางจำหน่ายในราคา 8 บาท
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังนี้เราจะล๊อนซ์ “มาม่า โซเดียมต่ำ" ในราคา 8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คำนวนมาจากต้นทุนวัตถุดิบใหม่แล้ว และได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์เพราะสินค้าที่ออกสู่ตลาดจะต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ก่อน
คาดว่าจะวางจำหน่ายได้ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกมาม่าซีรีย์ 50 ปี ราคา 10 บาท เพราะมาม่าตั้งเป้าจะก้าวไปสู่ความเป็นพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนมาม่าพรีเมี่ยมอยู่ที่ 20%
ตอนนี้ราคาวัตถุดิบหลักน้ำมันปาล์มขึ้นไป 110% แป้งสาลีไม่ต่ำ 53% สองตัวนี้เป็นวัตถุดิบหลัก รวมกันกินสัดส่วน 50% ของต้นทุน และการที่น้ำมันปรับขึ้นราคาทำให้ต้นทุน packaging และค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันเรามีรถกระจายสินค้ากว่า 200 คัน
"ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์ไม่อนุมัติให้ขึ้นราคา เราได้นำเสนอราคาวัตถุดิบ ชี้แจงวัตถุดิบต่างให้แก่กระทรวงพาณิชย์ ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์น่าจะอยู่ในกระบวนการพิจารณาอนุมัติให้เราขึ้นราคามาม่าจาก 6 บาท เป็น 7 บาท เพราะมาม่าเป็นสินค้าแมส เข้าถึงผู้บริโภคทุกคน ข้อมูลที่เราส่งให้กระทรวงพาณิชย์น่าจะทำให้กระทรวงพาณิชย์เข้าใจ ส่วนเรื่องกำหนดเวลาก็ยังคงต้องรอ”
ตอนนี้ราคาวัตถุดิบเลยราคาต้นทุนไปนานแล้ว เรียกได้ว่าตอนนี้มาม่าขาดทุนก็ได้ เพราะตอนนี้ราคาวัตถุดิบมันพุ่งขึ้นจนถึงจุดที่ไม่สามารถแบกรับได้แล้วมากกว่า 2 เดือน แต่เราเป็นบริษัทใหญ่ ทำให้ขาดทุนไม่มากเพราะเรามีวอลลุ่มวัตถุดิบจำนวนมาก แต่จริงๆต้นทุนวัตถุดิบมีการปรับขึ้นก่อนสงครามอยู่แล้ว พอมีสงครามก็ยิ่งพุ่งขึ้น ตอนนี้จริงๆเราไม่สามารถประคองราคา 6 บาทได้แล้ว แต่เรารอกระทรวงพาณิชย์อนุมัติ
ถ้าเดือนนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุมัติให้ขึ้นราคา คาดว่าเดือนหน้าน่าจะอนุมัติให้ขึ้นราคา ส่วนสินค้าอื่นเนื่องจากเราเป็นผู้จัดจำหน่าย ถ้าสินค้าใดที่ผู้ผลิตเขาเสนอให้เราขึ้นราคา อะไรที่เราสามารถทำได้และไม่ขัดกับกระทรวงพาณิชย์เราก็ทำ
สำหรับภาพรวมตลาดตอนนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตลาดยังคงเติบโตอยู่ที่ 7% ซึ่งมาม่าเติบโตตามตลาด 7% เช่นกันและคาดว่าครึ่งปีนี้ภาพรวมตลาดจะเติบโตเพิ่ม 3-5% ขณะที่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมเติบโต15% และมาม่าเติบโต 28% สูงกว่าตลาด
นอกจากนี้ความต้องการมาม่าในตลาดต่างประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด ที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการผลิตสำหรับการส่งออกมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดต่างประเทศ ตอนนี้กำลังการผลิตเดินเต็มที่100%
ในส่วนของกำลังซื้อต้องบอกว่าไม่เหมือนเดิม ภาพรวมลดลงพอสมควรแต่ยังไม่สามารถประเมินได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากำลังเสริมไม่ได้เกี่ยวกับการขึ้นราคามาม่า เพราะการขึ้นราคามาม่าเมื่อเทียบกับสินค้าอื่นนับว่าน้อยมากถ้าผู้บริโภคจะรับประทานเพื่อความอร่อย และใช้จ่ายน้อยที่สุดคงไม่พ้นมาม่า และในช่วง 14 ปีที่ผ่านมามาม่าเพิ่งจะขึ้นราคาแค่ครั้งเดียว