จากความต้องการบริการทางการแพทย์และสุขภาพจากผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มากขึ้นบวกกับแรงสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นภาษี ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงพยาบาลขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การแข่งขันของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนจะยากและรุนแรงขึ้น จากผู้ประกอบการที่มีอยู่จำนวนมากในตลาด ขณะที่คนไข้ที่มีศักยภาพกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตามทำให้บางส่วนเร่งปรับตัวไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche market)
ขณะเดียวกัน “ตลาดทันตกรรม” ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตได้ดี โดยมีการคาดการณ์ว่าเม็ดเงินที่สะพัดของตลาดทันตกรรมในเมืองไทยมีสูงถึง 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคลินิกทันตกรรมเอกชน 94% และโรงพยาบาล 6% โดยส่วนแบ่งของเซ็กเม้นท์ทันตกรรมแบ่งเป็นทันตกรรมบูรณะ 15% ทันตกรรมเพื่อความสวยงาม 19% และทันตกรรมป้องกันรักษาทั่วไป 66%
จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดทันตกรรมบวกกับการแข่งขันของธุรกิจโรงพยาบาลที่มุ่งเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทำให้ รพ.นครธนปรับโพสิชั่นนิ่งใหม่จากโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปสู่การเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง โดยปั้นศูนย์ทันตกรรมของโรงพยาบาลให้เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเป็นจุดขายใหม่ของโรงพยาบาล
พญ.ศิเรมอร ทองสิมา รองผู้อำนวยการสายงานแพทย์ โรงพยาบาลนครธน เปิดเผยว่า โควิด-19 เป็นสิ่งที่กระทบกับธุรกิจโรงพยาบาลทุกแห่ง ในเรื่องของยอดคนไข้ที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มโรคที่ไม่เร่งด่วน ที่รอการรักษาได้ ในส่วนของทันตกรรม เช่น การขูดหินปูน เป็นเรื่องที่รอได้ ทำให้คนไข้ชะลอเวลาการเข้ารับการรักษาออกไป
แต่หลังจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึงมากขึ้น ทำให้จำนวนคนไข้ที่เข้ามารับการรักษากลับมาใกล้เคียงกับปกติมากขึ้น โดยในโรงพยาบาภลขนาดเล็กถึงกลางจำนวนคนไข้ OPD เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากช่วงโควิด
สำหรับรพ.นครธน ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 23% โดยสัดส่วนลูกค้ายังคงเป็นคนไทย 95% และต่างชาติ โดยเฉพาะจีนและเมียนมา 5% ซึ่งพฤติกรรมคนไข้ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนโดยให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยของโรงพยาบาล ความน่าเชื่อถือ และความน่าไว้วางใจที่จะมารับบริการ
นอกจากนี้ รพ.นครธน ยังมีแผนปรับเปลี่ยนการให้บริการ โดยพัฒนาการรักษาและบริการจากโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปสู่การเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีความพร้อมในการรักษาและการบริการโดยบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละวิชาชีพ โดยจะยกระดับศูนย์เดิมที่มีในโรงพยาบาลให้มีความเฉพาะทางมากขึ้น
ล่าสุดได้ร่วมมือกับสไมล์ โอเปอเรชั่นส์ ในการยกระดับความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านทันตกรรม โดยใช้ประสบการณ์ด้านการจัดฟันมากว่า 10 ปี มาแก้ pain point ของผู้มีปัญหาด้านทันตกรรม และให้การรักษาแบบเฉพาะบุคคล โดยวางแผนร่วมกันกับผู้รับบริการ เพื่อหาโซลูชั่นที่เหมาะสมกับแต่ละคนทำให้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด การให้บริการรักษาของ ศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลนครธนจะครอบคลุม กลุ่มผู้รับบริการ ทุกเพศ ทุกวัย โดยแบ่งกลุ่มตามหัตถการ
“จากการร่วมมือครั้งนี้ประกอบกับสื่อ และกิจกรรมการตลาดต่างๆ คาดว่า การรับรู้เกี่ยวกับศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลนคธน และทำให้ยอดคนไข้จะเพิ่มขึ้นจากชุมชนย่านพระราม 2 และชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยในบริเวณนี้โดยเฉพาะชาวจีน และดันอัตราการเติบโตของโรงพยาบาลทั้งปีแตะ30% นอกจากศูนย์ทันตกรรแล้ว เรายังมีแผนที่จะยกระดับศูนย์มะเร็ง ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์สมองและระบบประสาทให้เป็นศูนย์เชียวชาญเฉพาะทางอีกด้วย โดยใช้งบการลงทุนราวๆ150 ล้านบาท ในการสร้างทีมจัดหาบุคลากรทางการแพทย์และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติม”
หน้าที่ 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,799 วันที่ 10-13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565