บริษัท เค้ก แอนด์ เบเกอรี่ จำกัด บริษัทในเครือของสหพัฒน์ฯ และเป็นผู้นำในการผลิตเค้ก และจำหน่ายเบเกอรี่ ที่มีคุณภาพมาตรฐานการผลิตระดับสูง เริ่มดำเนินการในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ภายใต้ชื่อ บริษัทไทยฟูจิยา (Thai Fujiya Co.Ltd) โดยการร่วมทุนกับบริษัทฟูจิยา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเค้กและเบเกอรี่อันดับต้นของประเทศญี่ปุ่น
เพื่อทำการผลิตและจัดจำหน่ายเบเกอรี่ระดับมาตรฐานญี่ปุ่นเพื่อให้บริการผลิตสินค้าเค้กและเบเกอรี่ (OEM service) ให้แบรนด์ชั้นนำต่างๆ และร้านเบเกอรี่อื่นๆ อย่างกว้างขวาง ต่อมาในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เค้กแอนด์เบเกอรี่ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ด้วยกำลังการผลิตรวมกว่า 5 ตันต่อวัน และเปิดแบรนด์สินค้า “ริชเชส – Richesse” สู่ตลาดเมืองไทย
นางทิพาภรณ์ โชควัฒนา รองประธานกรรมการ บริษัท เค้ก แอนด์ เบเกอรี่ จำกัด เปิดเผยว่าร้านริชเชส เป็นร้านในกลุ่มของเครือสหพัฒน์ฯ ซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรมากมาย จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาและสร้างมาตรฐานใหม่ของตลาดร้านเบเกอรี่ โดยเน้น 8 กลยุทธ์การตลาดสำคัญ คือ ‘RICHESSE’s Key Strategies’ นั่นคือ
R = Relationship คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า กระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อเข้าใจพฤติกรรมและสร้างกิจกรรมที่ตรงใจ
I = Innovation การสร้างนวัตกรรมสินค้า พัฒนาหาสินค้าใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือเมนูที่ดีและทันสมัย
C = Customer voice พร้อมฟังเสียงลูกค้า โดยมีการวิจัยตลาดเพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกๆ ไตรมาส
H = Health เน้นเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ ด้วยการผลิตสินค้าโดยยึดหลักคุณภาพต้องมาก่อนเสมอ (no trans fat)
E = English garden กับคอนเซ็ปเบเกอรี่ในสวนสไตล์อังกฤษ สร้างบรรยากาศควบคู่กับขนมที่อร่อย
S = Sharing การแบ่งปัน โดยการเปิดสอนการทำเบเกอรี่ต่างๆ เพื่อแบ่งปันความรู้แม่บ้าน & พ่อบ้านยุคใหม่
S = Social Platform เน้นเข้าถึงสื่อโซเชียลสำคัญทุกชนิด ปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เข้าถึงสื่อแบบ new normal
E = Earth ไม่ลืมที่จะดูแลโลกใบนี้ในทุกๆ กิจกรรม ด้วยการเน้นการใช้ภาชนะที่ไม่สิ้นเปลือง และภาชนะ reuse อยู่เสมอ
นอกจากนี้ เรายังเสริมทัพด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อการสร้างแรงจูงใจ ซื้อเบเกอรี่ 4 แถม 1 ตลอดปี 2565 และ Breakfast Save ลด 10 บาทเมื่อซื้อ ชุดอาหารเช้า “เอ๊กแพนวิช + เครื่องดื่ม” และ Richesse Club เมื่อซื้อครบ 100 บาทสมัครเป็น member กับ Richesse club เพื่อสะสมแต้ม และส่วนลดในครั้งถัดไปอีกด้วย
ปัจจุบันริชเชสมีทั้งหมด 11 สาขา อันได้แก่ (1) สาขา ICC ซอยประดู่ 1 (2) สาขา เดอะมอลล์ท่าพระ (3) สาขา โลตัส บางแค (ชั้น 2 ตรงข้าม Homepro) (4) สาขาธนาคาร ธนชาต ถนนเพชรบุรี(5) สาขา โลตัสอ่อนนุช 80 (6) สาขา สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ (7) สาขา แพลตตินั่ม (ชั้น 1 ประตู 1) (8) สาขา เมกาบางนา (หน้า Big C) (9) สาขา Factory Outlet ศรีราชา (10) สาขา ILC บางนา กม.18 วัดศรีวารีน้อย และ (11) สาขา @first มาบุญครอง ซึ่งเรามั่นใจว่า จะสามารถเพิ่มยอดขายในร้าน Richesse ได้เป็น 2 เท่าในทุกๆ สาขารวมเป็น 30 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2566 อย่างแน่นอน
ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าตลาดสายหวานในบ้านเรามีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ทั้งนี้ มองว่าการแข่งขันทางการตลาดเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เกิดเบเกอรี่ที่มีคุณภาพในตลาดเมืองไทย เพราะการผลิตเบเกอรี่สามารถทำได้ตั้งแต่แบบต้นทุนต่ำ ไปจนถึง แบบคุณภาพสูงด้วยต้นทุนสูง ทั้งนี้ การแข่งขันจะทำให้ผู้ผลิตทั้งหลายไม่สามารถทำธุรกิจต่อได้หากไม่ปรับปรุงเรื่องคุณภาพ ในที่สุดผลดีจะตกมาที่ผู้บริโภคโดยรวม ซึ่งเป็นหัวใจของนโยบายหลักในการทำการตลาดของเครือสหพัฒน์ฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายึดถือมาโดยตลอด”