นกแอร์ปั้น"เชียงใหม่" ฐานบินภาคเหนือเชื่อมโลก

30 ก.ค. 2565 | 09:39 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2565 | 17:37 น.

เปิดยุทธศาสตร์การบิน “นกแอร์” ปั้นเชียงใหม่ เป็นฐานการบินภาคเหนือสู่หัวเมืองหลักทุกภาค นับถอยหลังเปิดบินเชียงใหม่-โคราช 1 ส.ค.นี้ ต่อด้วยปลายทาง “สุวรรณภูมิ” ฟื้นเส้นทาง บินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน รวมถึงเมืองท่องเที่ยวหลักของภูมิภาค อาทิ หลวงพระบาง สิงคโปร์ โฮจิมินห์ 

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า 1 ส.ค. 2565 นี้ นกแอร์จะเปิดบินเส้นทางเชียงใหม่-นครราชสีมา-เชียงใหม่ สัปดาห์ละ 2 เที่ยว คือ ออกจากเชียงใหม่เวลา 20.00 น. วันศุกร์และจันทร์ และจากนครราชสีมามาเชียงใหม่ทุกวันเสาร์และอังคาร เวลา 05.30 น. ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการเดินทางระหว่างหัวเมืองใหญ่ในภาคเหนือและภาคอีสาน ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนทั้งสองภาคได้อย่างดี 

 

โดยที่เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่เป็นยุทธศาสตร์หลักของภาคเหนือ มีจุดแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมถึงประวัติศาสต์ วัฒนธรรม รวมถึงเป็นแหล่งรวมสถาบันการศึกษาลำดับต้นๆ ของประเทศ สายการบินนกแอร์ให้ความสำคัญในการผลักดันสนามบินเชียงใหม่ให้เป็นฐานการบินสำคัญของนกแอร์ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อตอบโจทย์การเดินทางของพี่น้องประชาชนในพื้นที่และจังหวัดรอบข้าง ให้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์

นกแอร์ปั้น\"เชียงใหม่\" ฐานบินภาคเหนือเชื่อมโลก

ปัจจุบันนกแอร์มีเส้นทางบินจากเชียงใหม่ ไปยังปลายทางหัวเมืองหลักในทุกภาค ประกอบด้วย เชียงใหม่-ขอนแก่น เชียงใหม่-อุบลราชธานี  เชียงใหม่-อุดรธานี เชียงใหม่-ดอนเมือง และจะเปิดบินเชียงใหม่-นครราชสีมา ต้นเดือนส.ค. จากนั้นปลายเดือนส.ค.จะเปิดบินเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้การกลับมาเปิดเส้นทางบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนอีกครั้งในปลายปีนี้

 

นายวุฒิภูมิ กล่าวอีกว่า นอกจากหัวเมืองหลักในประเทศแล้ว นกแอร์มีแผนเปิดบินจากเชียงใหม่ ไปยังกลุ่มเป้าหมายสำคัญในภูมิภาค อาทิ หลวงพระบาง ในสปป.ลาว เมืองโฮจิมินห์ ของเวียดนาม และจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะเปิดเพิ่มเติมภายในปีนี้หรือปีหน้า 

นกแอร์ปั้น\"เชียงใหม่\" ฐานบินภาคเหนือเชื่อมโลก

นกแอร์ปั้น\"เชียงใหม่\" ฐานบินภาคเหนือเชื่อมโลก

ส่วนภาพรวมของการให้บริการการบิน นายวุฒิภูมิกล่าวว่า รายได้และจำนวนผู้โดยสารของนกแอร์เวลานี้ดีขึ้นต่อเนื่อง และสูงขึ้นมาถึงประมาณ 50% ของช่วงก่อนเกิดการระบาดเชื้อโควิด-19 โดยในปี 2562 ก่อนโควิดนกแอร์มีผู้โดยสารปีละประมาณ 8 ล้านคน ส่วนปีนี้ (ณ ปลาย ก.ค. 2565) มีเกิน 3 ล้านคนแล้ว 

 

ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่มีความพร้อม ในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว ทั้งความพร้อมของเมือง สิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งธรรมชาติ สถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของพื้นที่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของพื้นที่

 

และยินดีที่สายการบินนกแอร์สนใจพัฒนาให้สนามบินเชียงใหม่เป็นฐานการบินสำคัญของสายการบิน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด รวมถึงการนำรายได้จากจุด อื่นๆ เข้ามายังเชียงใหม่เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนต่อไป 

 

ด้านนายธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ในวันที่ 1 ส.ค.นี้นกแอร์จะเปิดเส้นทางบินเชียงใหม่-นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งการเดินทางที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินทางที่ สะดวกรวดเร็ว เชื่อว่าเส้นทางดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินทาง ระหว่างสองหัวเมืองใหญ่ของทั้งสองภาค คือ ภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งทั้งสองจังหวัดเป็นจังหวัดที่มีจุดแข็งมากมาย เมื่อการเดินทางไปมานั้น
ง่ายขึ้น การพัฒนารายได้ก็จะเพิ่มขึ้นตาม โดยผู้โดยสารที่เดินทางเส้นทางบินดังกล่าวของนกแอร์ยังจะได้รับสิทธิพิเศษจากทางห้างสรรพสินค้า ร้านค้า หรือสนามกอล์ฟที่เข้าร่วมเพื่อสนับสนุนการเดินทางของของผู้โดยสารด้วย

 

ปัจจุบัน นกแอร์มีเส้นทางบิน จากดอนเมือง สู่จุดหมายในภาคเหนือ 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย น่านแม่ฮ่องสอน ลำปาง แม่สอด แพร่ พิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัดคือ เลย อุดรธานี อุบลราชธานีสกลนคร บุรีรัมย์ นครพนม และภาคใต้ 8 จังหวัดคือ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ (สงขลา) สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตรัง และเบตง (ยะลา) 

 

นภาพร ขัติยะ/รายงาน

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,805 วันที่ 31 กรกฎาคม-3 สิงหาคม พ.ศ.2565