กลับมาแล้ว สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงรายประกาศเปิดบริการตามปกติ

หลังจากปิดรันเวย์มาหลายวันจนผู้โดยสารเดือดร้อนกว่า 10,000 คน กลางดึกวันที่ 4 สิงหาคม ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย(ทชร.) ได้ประกาศเปิดรันเวย์เสียที “ไทยเวียตเจ็ท” ประเดิมลำแรกทะยานขึ้นฟ้าบินกลับสุวรรณภูมิ พร้อมประกาศก่อนสายการบินอื่น นำ 2 ไฟล์ทบิน “สุวรรณภูมิ-เชียงราย/เชียงราย-สุวรรณภูมิ” กลับมาบินตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม คาด 36 ไฟล์ทบินของ ทชร.จะกลับมาเป็นปกติเร็ววัน

ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” รายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.50 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2565 ที่ห้องประชุมตอบแทนคุณแผ่นดิน ชั้น 2 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (ทชร.) นาวาอากาศตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการ ทชร.  พร้อมผู้บริหาร ทชร. ได้ร่วมกันแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินนกแอร์ไถลออกนอกรันเวย์ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 21.06 น. ของวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ทำให้ ทชร.ต้องออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ปิดทางวิ่ง(รันเวย์) ของ ทชร. ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม และออกออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ตามมาอีกครั้ง เพื่อปิดทางวิ่ง(รันเวย์) ต่อจนถึงเวลา 22.00 น.วันที่ 5 สิงหาคม

โดยก่อนหน้าที่จะมีการแถลงข่าวนั้น ทาง ทชร. ได้ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ยกเลิกการปิดทางวิ่ง จากกรณีเหตุอากาศยานลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง ตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2565 และขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้า-ออกผ่าน ทชร.กับสายการบินต่างๆ สอบถามตรวจสอบตารางบินกับทางสายการบินโดยตรง ซึ่งทันทีที่มีการประกาศยกเลิกการปิดทางวิ่ง เครื่องบินของสายการบินไทยเวียตเจ็ท ซึ่งเป็นเครื่องบินลำเดียวที่ตกค้างอยู่ใน ทชร.หลังเกิดเหตุ ได้บินทะยานขึ้นฟ้าออกจาก ทชร.ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นลำแรก ในเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 4 สิงหาคม

นาวาอากาศตรี ดร.สมชนก ได้เริ่มต้นแถลงถึงรายละเอียดการเคลื่อนย้ายอากาศยานลำที่ประสบเหตุ โดยได้เล่าว่า หลังทีมเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง นำเครื่องขึ้นมาอยู่บนรันเวย์ได้เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม จากนั้นได้มีการวางแผนลากจูงเครื่องบินเข้าสู่หลุมจอด โดยช่วงแรกต้องลากจูงจากทางด้านหลังของเครื่องบิน แต่เมื่อต้องหักวงเลี้ยวเพื่อนำเครื่องเข้าสู่หลุมจอด ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการลากจูงจากทางด้านหน้า ทั้งนี้การลากจูงเครื่องบินที่ประสบเหตุเข้าสู่หลุมจอด สำเร็จลงได้ด้วยดีในเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 4 สิงหาคม

โดยหลังอากาศยานขัดข้องได้พ้นรันเวย์แล้ว ทชร.ซึ่งได้ทำการเคลียร์รันเวย์ ซ่อมแซมระบบไฟสัญญาณส่องนำทางเครื่องบินต่างๆ คู่ขนานมากับปฏิบัติการเคลื่อนย้ายอากาศ ได้ทำการปรับปรุงซ่อมแซมในส่วนสุดท้าย โดยมีฝ่ายมาตรฐานสนามบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นผู้ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเมื่อตรวจสอบว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว จึงได้อนุมัติให้ ทชร.ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ยกเลิกการปิดทางวิ่ง

ผู้อำนวยการ ทชร. ชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ยกเลิกการปิดทางวิ่งไปแล้ว ทชร.ได้แจ้งประสานไปยังสายการบินต่างๆ ที่มีไฟล์ท (Flight) บินเข้า-ออกผ่าน ทชร. เพื่อให้บริหารจัดการไฟล์ทบินที่ย้ายไปขึ้นลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ให้กลับมาขึ้นลงที่ ทชร.ได้ อย่างไรก็ตามสายการบินใดจะกลับมาขึ้นลงที่ ทชร.จำนวนกี่เที่ยวบินนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของสายการบินนั้นๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับความคล่องตัวในการบริหารจัดการเครื่องบินของแต่ละสายการบิน แต่เชื่อว่าในวันที่ 5  สิงหาคม จะมีสายการบินที่กลับมาบินขึ้นลงจำนวนหนึ่ง แต่คงจะยังไม่ครบทั้ง 36 ไฟล์ทบินที่เคยมีมาใช้บริการที่ ทชร. อย่างไรก็ตามในส่วนของรถบัสบริการผู้โดยสารจาก ทชร.ไปยัง ทชม.นั้น จะยังมีให้บริการไปจนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ

ต่อคำถามของสื่อมวลชนที่ว่า ทชร.อยากจะบอกอะไรกับผู้โดยสารและประชาชนบ้าง ผู้อำนวยการ ทชร. บอกว่า ทชร.ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่ง อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ดำเนินการไป ทชร.ยึดหลักปฏิบัติที่เป็นสากล โดยเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนการบริการอื่นใดที่ขาดตกบกพร่องไปจนทำให้ผู้โดยสารรู้สึกไม่พอใจ ทชร.ขอใช้โอกาสนี้ขออภัยอีกครั้ง ทั้งนี้ ทชร.และสายการบินต่างๆ จะได้ร่วมกันถอดบทเรียนเกี่ยวกับเรื่องการให้บริการ เพื่อให้อนาคตหากเกิดกรณีเช่นนี้อีกจะทำให้ ทชร.และสายการบินต่างๆ สามารถให้การบริการผู้โดยสารและประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มีรายงานว่า สายการบินไทยเวียตเจ็ทได้เป็นสายการบินแรก ที่ได้เผยแพร่ประกาศว่าจะกลับมาให้บริการเที่ยวบิน ระหว่างสุวรรณภูมิ-เชียงราย ในวันที่ 5สิงหาคม จำนวน 2 เที่ยวบินคือเที่ยวบินที่ VZ134 สุวรรณภูมิ-เชียงราย เครื่องออกเวลา 18.00 น. และเที่ยวบินที่ VZ135 เชียงราย-สุวรรณภูมิ เครื่องออกเวลา 19.55 น. ส่วนเที่ยวบินอื่นๆ จะได้ทยอยกลับเข้ามาบินตามปกติ ขณะที่ผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินอื่นๆ ทชร.ขอให้เช็คตารางการบินกับทางสายการบินได้โดยตรง เพื่อให้สามารถเดินทางได้ตามที่ต้องการ