อีเวนต์ฮอลล์เติบโต “สยามพิฆเนศ” คาดสิ้นปีรายได้รวมเพิ่ม 15%ล่าสุดวางแผนส่งคอนเทนต์ 4 เรื่อง 4 เดือนกระตุ้นโรงละคร ทั้ง มายากลซีริล ทะกะยะมะ ทอล์กโชว์ของนักเขียนนิ้วกลม ฯลฯ ด้านแกรมมี่เผยมียอดจองครึ่งปีหลังแล้วกว่า 80% ยํ้าฮอลล์ขนาดกลางได้รับความนิยม
นายชยานันต์ เทพวนินกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิฆเนศ จำกัด ผู้บริหารโรงละคร “สยามพิฆเนศ” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธุรกิจโรงละครและการแสดงได้รับการตอบรับที่ดี พบว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้ามาติดต่อขอเช่าพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามามีหลากหลายประเภท อาทิ กลุ่มลูกค้าโชว์บิซ อีเวนต์ และละครเวที เป็นต้นทำให้คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้นราว 15%
บริษัทดำเนินธุรกิจ 2 ประเภทคือ 1.ผลิตคอนเทนต์ของเวิร์คพอยท์เองเช่น ละครเวทีโหมโรง คอนเสิร์ตเพลงประภาส คอนเสิร์ตคุณพระช่วย ฯลฯ และ2. การเปิดพื้นที่ให้เช่า ซึ่งมีโรงละคร 3ขนาดเพื่อรองรับขนาดงานเล็ก-ใหญ่ที่แตกต่างกัน โดยสัดส่วนการใช้โรงละครเวทีปัจจุบัน แบ่งเป็น การผลิตคอนเทนต์ของเวิร์คพอยท์เอง 40% และให้เช่าพื้นที่60% ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวโรงละครนี้มาได้ 1 ปี เริ่มมีกลุ่มองค์กรภาครัฐ เอกชนต่างๆ รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องโหมโรงในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดีและเพิ่มรอบกว่า 40 ครั้ง”
อีกทั้งยังคงเน้นการตลาดต่อเนื่องโดยเฉพาะการผลิตคอนเทนต์ของเวิร์คพอยท์สู่โรงละคร ซึ่งบริษัทได้กำหนดการผลิตคอนเทนต์เองประมาณ 4 เรื่องต่อปีอาทิ เดือนมิถุนายน จะมีโชว์มายากลชื่อดัง ซีริล ทะกะยะมะ เดือนกรกฎาคม TalkShow จากนักเขียนนามปากกา นิ้วกลมเดือนสิงหาคม คุณพระช่วย 6 ยกสยามและเดือนตุลาคม จะร่วมกับบริษัท โต๊ะกลมฯ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตละคร ซิตคอมจัดโชว์เดอะมิวสิคัล นิทานหิ่งห้อย ขึ้นสำหรับงบประมาณผลิตคอนเทนต์โดยรวมทั้งปีตั้งไว้ที่ 80 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดคอนเทนต์เริ่มมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มผู้ชมยังมีเท่าเดิม ดังนั้นส่งผลให้ผู้ชมต้องเลือกคอนเทนต์ละเอียดมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันตลาดกลุ่มผู้ชมสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.กลุ่มที่ตัดสินใจเลือกคอนเทนต์หรือโชว์เพราะราคาที่คุ้มค่า2.กลุ่มที่ชื่นชอบโชว์ หรือศิลปินคนนั้นมาก ไม่สนใจว่าราคาจะแพงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในตลาดประเทศไทยกลุ่มผู้ชมกลุ่มแรกค่อนข้างมีจำนวนมาก ขณะเดียวกันคอนเทนต์ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมากในปีนี้ คือ ละครเวที โดยสังเกตจากภาพรวมตลาดที่มีคอนเทนต์ประเภทนี้เกิดขึ้นจำนวนมาก ขณะที่คอนเทนต์ประเภทโชว์บิซ ค่อนข้างทรงตัวเนื่องจากงบประมาณผู้สนับสนุนจากหลายแบรนด์ถูกตัดออกไป
ด้านนายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานจีเอ็มเอ็ม มิวสิก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินงานของธุรกิจคอนเสิร์ตฮอลล์ เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์ เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งปริมาณงานและรายได้ โดยครึ่งปีแรกของปี 2559 มีการจองพื้นที่จัดงานเต็ม 100% ซึ่งมีทั้งการจัดคอนเสิร์ตสัมมนา ปาร์ตี้ มีตแอนด์กรีต และทีวีโปรแกรม อาทิ การจัดประกวด TheStar 12 คอนเสิร์ตร็อกวิลเลจ จากค่ายจีนี่ เรคคอร์ดส งาน gCircuit #10 PartyEDM ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองปาร์ตี้เกย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย งานมีตแอนด์กรีต“จูวอน” ศิลปินชื่อดังจากเกาหลีและคอนเสิร์ตจากศิลปิน Divicio เป็นต้น
สำหรับครึ่งปีหลังมีลูกค้าจองพื้นที่ เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์ถึง 80% และคาดว่าจะมียอดจองเต็มในเร็วๆ นี้ ซึ่งมีทั้งการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทั้งคอนเสิร์ตแนวร็อก ลูกทุ่ง ป๊อป และกลุ่มทีน ส่วนต่างประเทศมีงานใหญ่ระดับโลกที่จะมาเปิดโชว์ในประเทศไทย อาทิ AXTONESTAGE EXCLUSIVE LIVE IN BANGKOK และ THE SMURFS LIVE ONSTAGE (เดอะ สเมิร์ฟส์ ไลฟ์ ออนสเตจ) และอื่นๆ
ขณะเดียวกันแนวโน้มของการจัดงานจากต่างประเทศที่เข้ามใช้บริการที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮ้าส์ มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้มีถึง 11 งาน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี7 งาน ในขณะที่ปริมาณการจัดงานโดยรวมขยับเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบฮอลล์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังพบว่าขนาดของฮอลล์ที่มีความเหมาะสมสำหรับการจัดงานขนาดกลาง ที่จุผู้ชมได้ 2-4 พันคน เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งการจัดโชว์บิซ และอีเวนต์ต่างๆ ที่สามารถหาสปอนต์เซอร์มาสนับสนุนงานได้ง่ายจึงทำให้ เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์มียอดจองพื้นที่ได้ถึง 80% และคาดว่าเร็วๆ นี้จะมีการจองพื้นที่เข้ามาจนเต็มไปถึงสิ้นปี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้โดยรวมของคอนเสิร์ต ฮอลล์ เติบโตเพิ่มขึ้นจากที่ตั้งเป้าไว้ถึง 10% ด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,157 วันที่ 15 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559