ท่องเที่ยวส่งสัญญาณดีดันธุรกิจโรงแรม-สายการบินฟื้นตัว

05 ส.ค. 2565 | 10:26 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ส.ค. 2565 | 17:49 น.

EIC เผยภาคท่องเที่ยวส่งสัญญาณดีขึ้นสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจการบินโดยประเมินว่านักท่องเที่ยวชาวไทยจะฟื้นตัวกลับไปที่ก่อนโควิดได้ในช่วงปี 2023 ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงปลายปี 2024

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่าในปี 2022 ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น

 

ภาพรวมภาคการท่องเที่ยวในปี 2022 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทย

  • นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเร่งตัวจากอุปสงค์คงค้างของการท่องเที่ยว (Pent-up demand) โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังไทยมีโอกาสเพิ่มสูงกว่าที่คาดไว้จาก 7.4 ล้านคน เป็นอาจแตะ 10 ล้านคน ซึ่งหลังไทยประกาศเปิดประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวที่ดีจากสถานการณ์โควิดโลกที่เริ่มดีขึ้นจากอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น จึงทำให้หลายประเทศรวมทั้งไทยทยอยผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และอาเซียนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี 

 

  • นักท่องเที่ยวชาวไทยมีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศมากขึ้นต่อเนื่อง โดยหลังผ่อนคลายมาตรการในช่วงกันยายน 2021 นักท่องเที่ยวไทยเริ่มเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดส่วนหนึ่งมาจากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนกระตุ้นทำให้เกิดความมั่นใจในการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น หลังการเปิดประเทศของไทยและการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศทั่วโลก ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไทยเริ่มออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในอาเซียนและเอเชีย 

 

  • อย่างไรก็ดี ภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจากค่าใช้จ่ายในด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะค่าน้ำมันและกำลังซื้อที่ลดลง
  • ธุรกิจโรงแรมปี 2022 ฟื้นตัวได้มากขึ้น

 

การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมในปี 2022 มีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวได้มากขึ้นแต่ยังต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก

 

  • จำนวนผู้เข้าพักและอัตราการเข้าพักมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น จาก 1.นักท่องเที่ยวไทยที่มีความมั่นใจในการเดินทางมากขึ้น แต่กำลังซื้อที่ลดลงกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวไทยเลือกเดินทางไปยังจังหวัดใกล้เคียงหรือจังหวัดเมืองรองเพื่อลดค่าใช้จ่าย และ 2.นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเร่งตัวจาก Pent-up demand ของการท่องเที่ยวแต่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวให้กลับไปเท่าช่วงก่อนโควิด เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก อย่างจีนยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันใกล้

 

  • ราคาที่พักเฉลี่ยมีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่ยังใช้กลยุทธ์ด้านราคาในการแข่งขันโดยการจัดโปรโมชันและการกำหนดราคาที่สอดคล้องกับกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

 

  • อย่างไรก็ดี ธุรกิจโรงแรมที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลักมีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วแต่ยังต้องเผชิญความท้าทายจาก 1.ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นและปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคบริการ 2.นักท่องเที่ยวไทยที่มีกำลังซื้อบางส่วนเริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น 3.การแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจโรงแรมจากการลดราคาห้องพักของโรงแรมในระดับ 4-5 ดาว รวมถึงการแข่งขันจากโรงแรมที่เคยปิดบริการชั่วคราวที่เริ่มกลับมาให้บริการมากขึ้น

 

  • ธุรกิจสายการบินสัญชาติไทยเริ่มทยอยฟื้นตัวในปี 2022

 

ในทำนองเดียวกัน ธุรกิจสายการบินสัญชาติไทยในปี 2022 มีแนวโน้มเริ่มทยอยฟื้นตัวจากที่หดตัวรุนแรงในปี 2020-2021 จากวิกฤต COVID-19 และมีมูลค่าราว 1.2-1.3 แสนล้านบาท (คิดเป็น 40% ของรายได้ปี 2019)

 

  • รายได้ขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางระหว่างประเทศที่เร่งตัวขึ้นและมีมูลค่าราว 5-6 หมื่นล้านบาท จาก Pent-up demand ของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้มีการเปิดเส้นทางบินใหม่และเพิ่มความถี่เที่ยวบินอย่างต่อเนื่องในหลายเส้นทางโดยเฉพาะในฝั่งอาเซียนและเอเชีย อีกทั้ง สล็อตตารางบินในหลายสนามบินของไทยในช่วงฤดูหนาวปี 2022 ได้ถูกจองล่วงหน้าจนค่อนข้างเต็มแล้ว นอกจากนี้ จากผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคของ EIC ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า นักท่องเที่ยวไทย 65% วางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อย 1 ครั้ง

 

  • รายได้ขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางในประเทศและอื่น ๆ ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องและมีมูลค่าราว 5 หมื่นล้านบาท จากการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยที่เพิ่มขึ้น และการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะช่วยเพิ่มการเดินทางในประเทศ

 

  • รายได้ขนส่งสินค้าที่เติบโตต่อเนื่องจนมีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท โดยหลายสายการบินได้ปรับตัวมาให้บริการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้ง อัตราค่าบริการขนส่งทางอากาศยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2019

 

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินยังเผชิญความท้าทายหลายประการที่จะสร้างความเสี่ยงต่อภาวะทางการเงินที่ค่อนข้างเปราะบาง ได้แก่

 

1.ภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายและหนี้สินที่เร่งตัวขึ้นจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

 

2.การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน

 

3.การฟื้นตัวของขีดความสามารถในการดำเนินการด้านการบิน

 

4.ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์

 

5.การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสายการบิน

 

  • จำนวนนักท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

 

ในระยะข้างหน้า EIC ประเมินว่านักท่องเที่ยวชาวไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจการบินมีแนวโน้มฟื้นตัวกลับไปเทียบเท่าก่อนโควิดได้ในช่วงปลายปี 2024 และ 2025 เป็นต้นไป ตามลำดับ

 

นักท่องเที่ยวชาวไทยคาดว่าจะฟื้นตัวกลับไปที่ก่อนโควิดได้ในช่วงปี 2023 ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงปลายปี 2024 โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีกำลังซื้อบางส่วนจะออกเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศมากขึ้น

 

ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัวได้ดีจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของไทยอย่างนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะกลับมาเดินทางระหว่างประเทศได้ในช่วงปี 2023 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก และทำให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจการบินของไทยเริ่มฟื้นตัวกลับไปเทียบเท่าก่อน COVID-19 ตั้งแต่ปลายปี 2024 เป็นต้นไป

 

  • ความท้าทายของธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว

 

อย่างไรก็ดีธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวยังมีความท้าทายอีก 4 ประเด็นที่ต้องเผชิญในอนาคต

 

  • โครงสร้างนักท่องเที่ยวที่จะเปลี่ยนแปลงไปทั้งสัญชาติและ Generations ซึ่งส่งผลต่อความต้องการบริการในอนาคต

 

  • การเดินทางเพื่อทำธุรกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวล่าช้า จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้วิถีการทำงานและการทำธุรกิจเปลี่ยนไปสู่การประชุมทางออนไลน์มากขึ้น 

 

  • การเข้าสู่ Net zero emission 2050 ซึ่งทำให้ธุรกิจโรงแรมและการบินต้องรีบปรับตัวในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

 

  • Digital transformation ในภาคการท่องเที่ยว เทคโนโลยีดิจิทัลจะมีบทบาทมากขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

 

  • EIC แนะธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวปรับกลยุทธ์

 

ทั้งนี้ EIC มองว่าธุรกิจโรงแรมและธุรกิจการบินต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 ดังต่อไปนี้

 

  • กลยุทธ์หลักของธุรกิจโรงแรม 3 ประการ ได้แก่

 

1.การกระจายความเสี่ยงและการหาช่องทางเพิ่มรายได้ในระยะยาว โดยลดการพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วพิจารณานักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เพิ่มเติม รวมถึงจากการใช้ประโยชน์สูงสุดของพื้นที่และปรับเปลี่ยนบริการที่เป็นรายได้เสริมให้เป็นธุรกิจหลัก เช่น การจัดงานตามเทศกาลและงานที่ร่วมมือกับท้องถิ่น การบริการอาหารและเครื่องดื่ม 

 

2.การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว โดยการยกระดับการบริการที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มวัย เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

 

3.การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสและมูลค่าทางธุรกิจ เช่น การร่วมมือกับธุรกิจด้านสุขภาพเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และการร่วมมือกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

 

3 กลยุทธ์สำคัญของธุรกิจการบิน ได้แก่

 

1. การปรับตัวเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงไปจากวิกฤต COVID-19 และจากกลุ่มผู้เดินทางใหม่ เช่น การพัฒนาระบบการเดินทางแบบไร้สัมผัส การปรับรูปแบบบริการและโครงสร้างราคาให้เหมาะกับพฤติกรรมผู้โดยสารในปัจจุบัน และการเสนอ Personalized experience ในการเดินทาง

 

2. การมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินการและลดต้นทุน เช่น การบริหารจัดการปริมาณเที่ยวบิน ฝูงบิน และเส้นทางบินให้เหมาะสมกับสภาพตลาด การเร่งจองสล็อตการบินใหม่ที่ว่างจากช่วง COVID-19 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินการและพยากรณ์อนาคต และการใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นและบินได้ระยะทางไกลขึ้น

 

3. เทรนด์ De-carbonisation และการสร้างความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของอุตสาหกรรมในการเป็น Net zero emission ภายในปี 2050 และตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้โดยสารในปัจจุบันที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น