“ผลิตเบียร์เสรี” กับ 3 เงื่อนไขสำคัญที่ผู้ผลิตควรรู้

01 พ.ย. 2565 | 08:42 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ย. 2565 | 15:56 น.

ครม. ปลดล็อก “ผลิตเบียร์เสรี” ทำคราฟเบียร์ ไม่ต้องกังวล เรื่องทุนจดทะเบียนและกำลังการผลิตขั้นต่ำ เช็ครายละเอียด 3 เงื่อนไขสำคัญที่ผู้ผลิตควรรู้ จากร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. ....

จากกรณีที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยสามารถ “ผลิตเบียร์เสรี” ด้วยการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุราพ.ศ. 2560 พร้อมเปิดโอกาสให้การผลิตสุราสามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก 

 

โดยปลดล็อคทั้งในเรื่องทุนจดทะเบียนและกำลังการผลิตขั้นต่ำ สามารถยกระดับสุราชุมชนจากขนาดเล็กไปสู่ขนาดกลาง ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เปิดโอกาสธุรกิจให้เติบโตสามารถขยายกิจการได้ 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ภาพประกอบข่าวครม.ไฟเขียวผลิตเบียร์เสรี

สำหรับร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา หรือ ผลิตเบียร์เสรี มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

 

1. เปิดโอกาสให้สุราชุมชนขนาดเล็ก จากที่ต้องใช้เครื่องจักรในการผลิตต่ำกว่า 5 แรงม้า และใช้คนงานน้อยกว่า 7 คน ให้สามารถขยายกำลังการผลิตเป็นระดับกลาง ที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตสูงกว่า 5 แรงม้า แต่ไม่เกิน 50 แรงม้า และสามารถใช้คนงานมากกว่า 7 คนได้ แต่ต้องไม่เกิน 50 คน 

 

แต่ทั้งนี้ ผู้ผลิตสุราชุมชนที่จะขยายกำลังการผลิตจากระดับเล็กเป็นระดับกลาง จะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ หรือสุรากลั่นชุมชนขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เคยกระทำความผิดตามกฎหมายภาษีสรรพสามิต หรือเคยกระทำความผิดและพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี

 

นอกจากนี้ ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

 

ภาพประกอบข่าวครม.ไฟเขียวผลิตเบียร์เสรี

2. ยกเลิกการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำและทุนจดทะเบียนสำหรับทั้งกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) และโรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมนั้น ในกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) จะต้องมีขนาดการผลิตไม่ต่ำกว่า 100,000 ลิตรต่อปีและไม่เกิน 1 ล้านลิตรต่อปี และกรณีโรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ต้องมีขนาดการผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี 

 

สำหรับทุนจดทะเบียนนั้น ต้องไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ กรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brewpub) ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

 

3. เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และนิติบุคคลสามารถขอใบอนุญาตผลิตสุราที่มิใช่เพื่อขาย แลกเปลี่ยน หรือดำเนินการอื่นใดโดยได้รับประโยชน์ตอบแทน และต้องมีปริมาณการผลิตสุราไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี

 

อย่างไรก็ดี สถานที่ผลิตสุราต้องมีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุราโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น และมิใช่สถานที่ผลิตสุราของผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุรารายอื่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของการบริโภคสุราและมิติของสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ 

 

ภาพประกอบข่าวครม.ไฟเขียวผลิตเบียร์เสรี

 

นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การแก้ไขกฎหมายที่ออกมาครั้งนี้ ตัวอย่างเช่น คราฟเบียร์ เดิมกำหนดต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และต้องมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตรต่อปี ตอนนี้ปลดล็อกแล้ว

 

โดยสามารถผลิตคราฟเบียร์ได้ไม่ต้องมีทุนจดทะเบียนและทุนขั้นต่ำ แต่ก็อาจมีเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพ และสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง