กลุ่มนักช้อปที่กำลังเติบโตอย่างมาก คือ นักช้อปรุ่นใหม่ ที่จะเติบโตสู่การเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ในอนาคต โดยหัวใจสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของนักช้อปรุ่นใหม่ คือ ความแปลกใหม่ ความสนุก และดีลดีๆ จากแบรนด์
ส่วนปัจจัยหลักในการใช้จ่ายสินค้าแบรนด์หรูของนักช้อปไทยบนโลกออนไลน์ คือ ราคา
จากผลสำรวจ พบว่า นักช้อปแบรนด์หรู ยอมที่จะใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 25,900 บาทในการซื้อสินค้าแบรนด์หรูผ่านช่องทางออนไลน์ หากแบ่งเป็นสัดส่วน พบว่า 21% ของผู้บริโภคออนไลน์ เต็มใจซื้อหากราคาต่ำกว่า 10,000 บาท, 10% เต็มใจซื้อหากราคาอยู่ระหว่าง40,001 – 50,000 บาท และ 4% เต็มใจซื้อหากราคามากกว่า 100,000 บาท โดย 5 อันดับสินค้าแบรนด์หรูในดวงใจของนักช้อป ได้แก่ กระเป๋าถือ นาฬิกา กระเป๋าสตางค์ รองเท้าและ เสื้อผ้า
10 เมกะเทรนด์น่าสนใจ แบรนด์หรูในไทยไม่ควรมองข้าม!
- การจับจ่ายใช้สอยในประเทศ คนไทยที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าแบรนด์หรู เดิมทีจะนิยมซื้อจากต่างประเทศ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาซื้อจากในประเทศมากขึ้น
- การเติบโตของดิจิทัลคอมเมิร์ช โดยวันเดอร์แมน ธอมสัน ได้เผยถึงผลสำรวจนักช้อปในปี 2021 ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยใช้จ่ายบนโลกออนไลน์สูงถึง 94% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยผู้บริโภคทั่วโลกใช้จ่ายอยู่ที่ 72% รวมไปถึง 90% ของผู้บริโภคคนไทยมีความมั่นใจว่าจะใช้ช่องทางการซื้อขายจากดิจิทัลคอมเมิร์ชมากขึ้นในอนาคต ขณะที่ตัวเลขของทั่วโลกนั้นอยู่ที่62%
- สนใจสินค้ามากกว่าประสบการณ์ ผู้บริโภคเริ่มหันมาโฟกัสที่ตัวสินค้ามากกว่าการมองหาประสบการณ์ในช้อป ส่งผลให้สินค้ากลุ่มกระเป๋าถือ รองเท้า และจิลเวอรี่ ยังสามารถทำยอดขายได้ดีแม้ในช่วงวิกฤตโควิด
- เทรนด์การซื้อเพื่อให้รางวัลตนเอง โดยเฉพาะกับสินค้าแบรนด์หรู ที่ถือเป็นของรางวัลหรือของขวัญล้ำค่าให้กับตนเอง ซึ่งเทรนด์นี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
- การเติบโตของตลาดสินค้าแบรนด์หรูมือสอง โดยมีการคาดการณ์ว่า ตลาดสินค้าแบรนด์หรูมือสอง จะเติบโตขึ้นถึง 65% ในช่วงปี 2017 - 2021 ในขณะที่สินค้าแบรนด์หรูมือหนึ่งเติบโตเพียง 12%
- เทรนด์ความยั่งยืน การรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญและสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ควรใส่ใจและแสดงออกในด้านดังกล่าวต่อสังคมและโลก
- ความรวดเร็วในการตอบสนองคือกุญแจความสำเร็จ การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างรวดเร็วเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า หลายแบรนด์หรูใช้ช่องทาง LINE OA เพื่อตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยในปี 2021 มีจำนวน LINE OA ของแบรนด์หรูเติบโตถึง 117% เมื่อเทียบกับปี 2020
- หน้าร้านไม่มีวันตาย ตราบใดที่ไม่น่าเบื่อ ความนิยมอยากมาดูสินค้าที่ช้อปจะกลับมาโดยลูกค้าจะยังคงคาดหวังประสบการณ์สุดพิเศษเช่นเคย โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์คลี่คลายเป็นปกติในปัจจุบัน
- การบอกปากต่อปาก โดยเฉพาะเรื่องเล่าประสบการณ์สุดพิเศษที่ได้รับจากแบรนด์หรู นักช้อปส่วนใหญ่มักแชร์เรื่องราวประสบการณ์ที่ดีแก่เพื่อนและคนรู้จักผ่านช่องทางต่างๆ โดยLINE OpenChat เป็นหนึ่งช่องทางที่ผู้คนหลากหลายมักคุยในเรื่องเดียวกัน โดยปัจจุบันมีจำนวนห้องที่พูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์หรูบน LINE OpenChat ถึงเกือบ 500 ห้อง
- สร้างสาขาบนโลกออนไลน์อย่างมีสไตล์ ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อแค่ประสบการณ์ในช้อปอีกต่อไป แต่รวมถึงประสบการณ์โดยรวมของแบรนด์ที่พิเศษ มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์
ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลง การซื้อขายจะกลับมาคึกคักมากขึ้น แต่พฤติกรรมของนักช้อปที่เปลี่ยนแปลงไป ยังคงมองหาประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อการตัดสินใจซื้อ การเลือกใช้ช่องทางออนไลน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่น จะช่วยให้แบรนด์สามารถดึงดูดลูกค้าและสร้างยอดขายได้เติบโต