นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 และแนวโน้มปี 2565-2566 ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไทยไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 4.5% จากไตรมาสที่ 2 ซึ่งขยายตัว 2.5% เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจหลายตัวปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการใช้จ่าย และด้านการผลิต
"เศรษฐกิจไทยขยายตัวมาต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ปี 2564 จนมาถึงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ซึ่งเครื่องชี้เกือบทั้งหมดขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการลงทุน รวมไปถึงการท่องเที่ยวที่ขยายตัว หลังจากการเปิดท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ" นายดนุชา ระบุ
ส่งผลให้ทั้งปี 2565 สศช. ปรับประมาณการ GDP จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.7 – 3.2% เป็นขยายตัว 3.2% ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ประเมินว่า จะขยายตัวได้ 3-4% หรือประมาณ 3.5%
สำหรับรายละเอียด เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2565 มีดังนี้
ด้านการใช้จ่าย
1.การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวในเกณฑ์สูง 9% เร่งขึ้นต่อเนื่องจากการขยายตัว 7.1% ในไตรมาสที่ 2 เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 39 ไตรมาส ตามการใช้จ่ายที่ขยายตัวเร่งขึ้นในทุกหมวด แยกเป็น
2.การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาล ลดลง 0.6% เทียบกับการขยายตัว 2.8% ในไตรมาสก่อนหน้า เป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาส ตามการลดลงของรายจ่ายซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับโรคโควิด-19
ส่วนค่าตอบแทนแรงงาน (ค่าจ้าง เงินเดือน) ขยายตัว 1.6% สำหรับอัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำในไตรมาสนี้อยู่ที่ 21.4% (ต่ำกว่า 22.5% ในไตรมาสก่อนหน้า)
3.การลงทุนรวม ขยายตัว 5.2% เทียบกับการลดลง 1% ในไตรมาสก่อนหน้า แยกเป็น
ด้านภาคการค้าต่างประเทศ
1.การส่งออกมีมูลค่า 71,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 6.7% ชะลอลงจากการขยายตัว 9.7% ในไตรมาสก่อนหน้า มีรายละเอียดดังนี้
2.การนำเข้าสินค้า มีมูลค่า 71,558 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 23.2% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 22.4% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณและราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 8% และ 14.1% ตามลำดับ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 17,100 ล้านบาท
ด้านการผลิต
1.สาขาเกษตรกรรม การป่าไม้ และ การประมง ปรับตัวลดลง 2.3% ตามการลดลงของผลผลิตพืชเกษตรสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา อุทกภัยและสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยในหลายพื้นที่ โดย ดัชนีรายได้เกษตรกรโดยรวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 17.7%
2.สาขาการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 6.3% เทียบกับการลดลง 0.5% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการกลับมาขยายตัวของทุกกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต
3.สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 53.6% และเร่งขึ้น จากการขยายตัว 44.9% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการขยายตัวในเกณฑ์สูงและเร่งขึ้นของจำนวน นักท่องเที่ยวต่างประเทศ และการขยายตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยวในประเทศ แยกเป็น
4.สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้น 3.5% เร่งขึ้นจาก 3.1% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการเร่งตัวขึ้นของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
5.สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า เพิ่มขึ้น 9.9% เร่งขึ้นจาก 5.2% ในไตรมาสก่อน หน้า ตามการขยายตัวเร่งขึ้นของบริการขนส่งทางอากาศ และบริการขนส่งทางบกและท่อลำเลียง
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ พบข้อมูล ดังนี้