"เศรษฐา" หนุนภาษีขายหุ้น ต้องเก็บภาษีคนรวย ลดความเหลื่อมล้ำ

30 พ.ย. 2565 | 00:00 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ย. 2565 | 07:30 น.

"เศรษฐา ทวีสิน" สนับสนุน รัฐเก็บภาษีขายหุ้น ระบุรัฐบาลต้องหารายได้จากคนรวย ลดความเหลื่อมล้ำ พ่วงภาษีมรดก และภาษีที่ดิน

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง การเก็บภาษีซื้อขายหุ้น (transaction tax) ในงานเสวนา “ถอดบทเรียน ฝ่าวิกฤต” หลักสูตร Wealth of Wisdom ว่า ภาษีขายหุ้น และภาษีมรดกเป็น เป็นช่องทางที่สามารถหารายได้เข้ารัฐได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และสามารถนำรายได้เหล่านั้น มาลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยได้

 

"การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำต้องใช้เงิน ซึ่งมาได้ 2 ทาง คือการกู้เงิน และการหารายได้เพิ่ม การกู้เงิน หากกู้มาก ก็ถูกว่า ต้องใช้หนี้กันเจ็ดชั่วโคตร อีกทางของการหารายได้ก็คือ การเก็บภาษีเพิ่ม ซึ่งก็ควรเก็บเอากับคนรวย เช่น การเก็บภาษมรดก ภาษีที่ดิน และภาษีซื้อขายหุ้น" 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ภาพประกอบข่าวการจัดเก็บภาษีขายหุ้น

ส่วนตัวมองว่า ภาษีซื้อขายหุ้น แม้เก็บเพียง 25 สตางค์ทุกครั้งที่มีการซื้อขาย ก็สามารถสร้างรายได้เข้ารัฐเป็นกอบเป็นกำ โดยโบรกเกอร์ ต้องพัฒนาระบบเพื่อนำส่ง แต่หากจะเก็บในรูปแบบของภาษีกำไรขายหุ้น (capital gains tax) เชื่อว่า จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากโบรกเกอร์ต้องใช้เงินลงทุนพัฒนาระบบเป็นหมื่นล้านบาท เพื่อให้ทราบข้อมูล กำไร ขาดทุน จนทราบมูลค่าสุทธิ

 

เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า ภาษีมรดกที่บังคับใช้อยู่นั้น มีการงดเว้นการเก็บที่ 100 ล้านแรก จะเริ่มคิดภาษีหลังจากนั้น ยกตัวอย่าง หากมีมรดก 101 ล้านบาท จะเสียภาษีแค่ 5% ของ 1,000,000 บาท เท่ากับว่า มรดก 101 ล้านบาท ประเทศไทยจ่ายภาษีเพียง 50,000 บาท เท่านั้น ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ต้องจ่ายถึง 40% ประเทศญี่ปุ่นจ่าย 50%