ผู้สื่อข่าวรายงงานว่า ผลวิจัยออนไลน์โดย บริษัท เอ็นไวโรไทยแลนด์ จำกัด (ในเครือบริษัทอินเด็กซ์ครีเอทีฟ วิลเลจ) เป็นบริษัทวิจัยยักษ์ใหญ่ระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์กเอ็นไวโรไทยแลนด์กว่า 10 ที่ผ่านมา เทรนด์ของเอ็นไวโรไทยแลนด์ สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง เป็นประโยชน์ทั้งต่อนักการตลาด ผู้ประกอบการรายเล็กรายใหญ่ รวมถึงตัวผู้บริโภคเอง เพื่อเข้าใจบริบทของโลก และสังคมไทย เตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างมีกลยุทธ์โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์ออนไลน์และการ weight ทางสถิติ เพื่อเป็นตัวแทนประชากร 1,000 คน ในกลุ่ม หญิง ชาย LGBTQ อายุ 18-55, ทุกกลุ่มรายได้ และอาชีพ ทั่วประเทศไทย
เทรนด์ที่น่าจับตามองคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคในปี 2023 พบว่า 85% ของคนไทยต้องการเห็นความเสมอ ภาคทางสังคม และการเปิดกว้างทางเพศ EQUALITY & DIVERSITY: ความเสมอภาค ความเท่าเทียมทางสังคมโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Y
จากผลสำรวจของ Rainmaker Thinking: blog สำรวจกลุ่มที่เป็น Gen Z ทั้งหมด 4,093 คนพบว่า gen z เน้นความเท่าเทียมเกี่ยวกับเรื่องค่าจ่ายค่าแรง มากกว่าเรื่องใด ๆ ถึง 74%
จากการศึกษาของ Facebook พบว่า แบรนด์ที่โฆษณาสื่อถึงการเปิดกว้าง ยอมรับความเสมอภาค ความแตกต่าง จะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากถึง 60% แบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงคนรุ่นใหม่จึงต้องสนับสนุนเรื่องความเสมอภาค การเปิดโอกาสตามความสามารถอย่างแท้จริง
ส่วนเรื่อง SUSTAINABILITY: รักษาสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ล่าสุดข้อมูลวิจัยของเอ็นไวโรไทยแลนด์พบว่า 65% ของคนไทยสนับสนุนสินค้า บริการที่มีวัตถุประสงค์ด้าน sustainabilityโดยคนไทย กลุ่ม GEN Y และ X สนับสนุนเรื่องนี้มากกว่ากลุ่มอื่น(90%)
สอดคล้องกับข้อมูลของ Mckinsey ที่รายงานว่า 66% ของ ผู้บริโภคทั่วโลกสนับสนุนเรื่องsustainability โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Y (75%) โดยแรงบันดาลใจในการรักษ์โลกของคนไทยเริ่มมาจากการประหยัดค่าใช้จ่าย ก่อนต่อยอดไปสู่พฤติกรรมรักษ์โลกสอดคล้องกับการศึกษาของ Harvard business review ว่า มีเพียง 26% เท่านั้น ที่ยอมจ่ายแพงสำหรับสินค้าบริการที่มีวัตถุประสงค์รักษ์โลก หรือ sustainability ซึ่งอาจจะขายได้แต่คนเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้สูง ดังนั้น แบรนด์ที่มีวัตถุประสงค์ด้าน Sustainability ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้ผู้บริโภคมาช่วยกันรักษ์โลกจริง ๆ ต้องเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ ซึ่งในยุคที่ทุกคนระมัดระวังการใช้จ่าย ต้องเริ่มจากการที่ผู้บริโภคเห็นผลประโยชน์จากการช่วยลดการใช้จ่ายก่อน คือรักษ์โลกแล้วช่วยประหยัดด้วย ไม่ใช่รักษ์โลกแล้วต้องจ่ายแพง
การใช้โซลาร์เซลล์เป็นตัวอย่างที่ดีมากในการกระตุ้นให้ใช้ไฟฟ้าน้อยลง เพราะช่วยประหยัดค่าไฟ หรือการใช้รถไฟฟ้าเพราะประหยัดค่าน้ำมัน
ส่วนเทรนด์สุขภาพยังแรงไม่ตก HEALTH & WELLNESS: รักสุขภาพ 64% ของคนไทยใส่ใจเรื่องสุขภาพกาย กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดแป้ง ไขมัน น้ำตาล ถึงแม้กลุ่มที่พบปัญหาเรื่องสุขภาพมากที่สุดคือกลุ่ม babyboomer แต่กลุ่มที่ตั้งใจรักษาสุขภาพมากที่สุดกลับเป็นกลุ่ม Gen X Y โดยสองกลุ่มนี้มุ่งมั่นรักษาสุขภาพผ่านการ ออกกำลังและลดน้ำหนัก เป็นหลัก
สอดคล้องกับเทรนด์โลกที่ศึกษาโดย Mindshareworld พบว่า 66% ของผู้บริโภคทั่วโลกสนใจเรื่องสุขภาพ จึงยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มสินค้า บริการด้านสุขภาพ นอกจากสุขภาพกายแล้ว ปัญหาสุขภาพจิตเป็นปัญหาที่พบมากในกลุ่ม Gen Z ซึ่งไม่เฉพาะคนไทยแต่เป็นปัญหาของกลุ่ม Gen Z ทั่วโลก ข้อมูลจาก เอ็นไวโรไทยแลนด์จากข้อมูลของAmerican Psychological Association (APA) พบว่า 45% ของ GEN Z มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เป็นกลุ่มที่สมควรพึ่งพาจิตแพทย์มากที่สุด แต่มีแนวโน้ม เชื่อ influencer หรือเพื่อนมากกว่า ซึ่งขาดประสบการณ์ชีวิต และมีโอกาสให้คำแนะนำผิด ๆ โดยการศึกษาของเอ็นไวโรไทยแลนด์พบว่าความเครียดของคนกลุ่มGen Z มาจาก การไม่มีใจทำงาน การบูลลี่กันเอง ความอยากมีอยากได้ทำให้ใช้เงินเกินตัว การสร้างภาพในโลกโซเชียล