การจัดสรรที่ดินทำกินเกษตรกร หนึ่งในนโยบายของรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ที่พยายามผลักดันมาตลอดระยะเวลา 8 ปี ตั้งแต่ช่วงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อบริหารจัดการที่ดิน ประชาชนอยู่กินยั่งยืน
โดยมีการตั้งเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและบริหารจัดการที่ดินให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล เป็นธรรม และยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและความมั่นคงของประเทศ
ล่าสุด น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งกำหนดพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 1,491 พื้นที่ ใน 70 จังหวัด เนื้อที่ประมาณ 5,792,145 ไร่ และมีประชาชนได้ที่ดินทำกินอย่างถูกกฎหมายเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน 78,109 ราย ในจำนวนที่ดิน 96,536 แปลง
ผลการดำเนินงานรวม 8 ปี
การดำเนินงานจนถึงปีงบประมาณ 2565 สรุปผลพบว่า รัฐบาลได้จัดให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว 76,453 ราย ในจำนวนที่ดิน 94,555 แปลงครอบคลุม 338 พื้นที่ ใน 67 จังหวัดทั่วประเทศ และป้องกันและแก้ปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติใน 663 พื้นที่ ป่าตาม พ.ร.ป.ป่าไม้ 1 พื้นที่ ป่าไม้ถาวร 2 พื้นที่ และป่าชายเลน 577 พื้นที่
ขณะเดียวกันยังส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับประชาชน โดยดำเนินการไปแล้ว 271 พื้นที่ใน 65 จังหวัด มีประชาชน 49,062 ราย รับการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ
รวมทั้งยังมีการดำเนินงานพัฒนาแหล่งน้ำและปัจจัยพื้นฐาน ส่งเสริมพัฒนาอาชีพ มีการจัดทำเมนูอาชีพเชิงบูรณาการ ส่งเสริมการรวมกลุ่ม สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนสินเชื่อมีเงินสร้างอาชีพ และส่งเสริมจัดทำบัญชีครัวเรือนด้วย
3 แนวทางสร้างมูลค่าที่ดิน
ที่ผ่านมารัฐบาลยังเสริมความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้ที่ดินดังกล่าวโดยการสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน ซึ่งมีการดำเนินการทั้งสิ้น 3 แนวทาง คือ
วางแผนต่อยอดปีงบประมาณ 2566
สำหรับการต่อยอดกานดำเนินงานในปีงบประมาณ 2566 นี้ รัฐบาลจะดำเนินการต่อให้ครบจำนวนตามเป้าหมาย จะจัดให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินจำนวน 11,000 แปลง และจะเดินหน้าโครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1: 4000 (One Map) กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัดให้แล้วเสร็จ รวมถึงแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินให้ประชาชนด้วย