ปัจจุบันธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา-กัญชง ในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมกัญชา-กัญชง จะมีมูลค่ารวมกว่า 28,000 ล้านบาท และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรสูงถึง 800,000 - 1.2 ล้านบาทต่อไร่ต่อปี
ล่าสุด บริษัท เทนเรน จำกัด หรือ TENRAIN ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท ลีพดีแลบ จำกัด หรือ LEAPDELAB เพื่อร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเป็นต้นแบบในการพัฒนาสินค้าในตลาดกัญชา-กัญชง ที่มีแนวโน้มมูลค่าการตลาดที่สูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
นายณัฎฐ์ ธารธนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทนเรน จำกัด เปิดเผยว่า การร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชา-กัญชงครั้งนี้ TENRAIN เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการปลูกกัญชา-กัญชงระดับพรีเมี่ยมและได้รับรองมาตรฐานการปลูกพืชสมุนไพรระดับสากล European Union organic (EU-Organic) จากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) รายแรกของประเทศ
ขณะที่ LEAPDELAB ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทายลัย และได้รับการบ่มเพาะจาก ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสารสกัดสมุนไพรและผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชงระดับประเทศ ได้ร่วมมือกันผลิตผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชง ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเป็นต้นแบบในการพัฒนาสินค้าในกลุ่มนี้ให้ได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นายณัฎฐ์ กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีหลังจากได้พาร์ทเนอร์กับผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับ Medical Grade โดยการมาร่วมมือกันระหว่างสองบริษัทจะช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาด เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นส่วนนึงที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในวงการนี้ให้ไปในทิศทางบวกมากกว่าที่เป็นในปัจจุบัน
รศ.ภญ.ดร.สรกนก วิมลมั่งคั่ง ผู้ก่อตั้งบริษัท LEAPDELAB และประธานคลัสเตอร์วิจัยกัญชาและสารธรรมชาติจากกัญชา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ปัจจุบันนี้ข่าวสารการใช้กัญชา-กัญชงมีกระแสที่แรง แต่ขาดคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสม หากไม่มีชิ้นงานต้นแบบที่ถูกต้องออกมา ก็ยากที่จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทางสังคม
โดยผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงที่มุ่งเป้าไปที่ผลิตภัณฑ์ยา สามารถทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับทุกภาคส่วนได้ โดยประโยชน์ของพืชกัญชงก็ไปได้ทุกอุตสาหกรรมทั้งยา อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ หากถูกนำไปใช้ไปพัฒนาให้ถูกต้องตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น จะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อสังคม