“ออมสิน”แนะเอสเอ็มอี "ปรับตัว เพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน เดินให้ยั่งยืน"

15 ก.พ. 2566 | 09:26 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.พ. 2566 | 09:44 น.

แบงก์ออมสินแนะ SME ปั้นธุรกิจก้าวผ่าน 3ช่วง “ อยู่รอด –เติบโต-ยั่งยืน”พร้อมเลี่ยงหั่นราคาทำสงครามตลาด แนะปรับตัวเพิ่มยอดขาย-ลดต้นทุน” ทั้งขนส่ง พลังงาน ดอกเบี้ย พร้อมบาลานระหว่างกำไรและความยั่งยืน

นายวีระชัย   อมรถกลสุเวช   รองผู้อำนวยการ  กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ ธนาคารออมสิน กล่าวในงานสัมมนา “อนาคตประเทศไทย: SMEจะไปทางไหน? จัดโดยคมชัดลึกเครือเนชั่น กรุ๊ป  ในหัวข้อ “เอสเอ็มอี ยุคใหม่เดินอย่างไรให้ยั่งยืน  โดยระบุว่า โดยสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อภาครัฐซึ่งมีช่วยเสริมสังคมโดยอ้อมโดยธนาคารออมสินเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยสินเชื่อเพื่อเพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาลในการนำเงินไปพัฒนาประเทศ 

 

สำหรับภาคธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยนั้น แบ่งพัฒนาการของ SME เป็น 3 ช่วงเวลาได้แก่   1. เป็นช่วงของการอยู่รอด สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 3ปีมีสายป่านและมีโอกาสจะเติบโต  2. ช่วงของการเติบโตสำหรับผู้ประกอบการSME ที่อยู่รอดมาแล้วจะเข้าสู่ช่วงของการเติบโต  และ 3.ช่วงของการเติบโตแบบยั่งยืน

หากย้อยกลับไปช่วงก่อนโควิด-19 จะเห็นคนส่วนใหญ่มีความระแวดระวังในการซื้อสินค้า  แต่ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น  ซึ่งกระแสตอบรับช่องทางออนไลน์จึงเป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่รอดมาได้ แม้ช่วงโควิด-19 จะเกิดเหตุการณ์ปิดเมืองและปิดร้านอาหารก็ตาม  จึงฝากให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกัน

 

นอกจากนี้ SME ยังต้องปรับตัวจากเพื่อรองรับกับต้นทุนแรงงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยส่วนตัวมองเรื่องแหล่งเงินทุนนั้นเป็นปัจจัยรองหลังจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาสนับสนุน

นายวีระชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า  ปัญหาที่ผู้ประกอบการ SME มักเผชิญอีกคือ ช่องทางทำการตลาด ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการปรับตัวทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลายคนได้ดำเนินการไปบ้างแล้วและการปรับตัวด้าน Packaging เพื่อสร้าง Value ให้กับสินค้า

“ออมสิน”แนะเอสเอ็มอี \"ปรับตัว เพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน เดินให้ยั่งยืน\"

ขณะเดียวกัน  ปัจจุบันแนวทางดำเนินธุรกิจไม่ได้พิจารณาเฉพาะกำไร โดยต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลควบคู่กันไปเพื่อให้สอดคล้องกับกติกาโลก ทั้ง  โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนหรือBCG ซึ่งผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลัก  ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เพื่อมุ่งเน้นการทำธุรกิจให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และการพัฒนาประเทศไทยที่ต้องรับผิดชอบใน 3เรื่องทั้งด้านสิ่งแวดล้อม    สังคม  และการกำกับด้านธรรมาภิบาล (ESG)

 

“ ดังนั้นผู้ประกอบการ SME นอกจากดูว่าธุรกิจของตัวเองอยู่ในStageไหน เพื่อจะต้องดำเนินธุรกิจให้อยู่รอด ขณะเดียวกันต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ ปัจจัยและผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นทุนด้านการขนส่งและพลังงาน  โดยผู้ประกอบการต้องหลีกเลี่ยงการหั่นราคาเพื่อการแข่งขัน และพยายามเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนควบคู่กันเพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นซึ่งจะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการปรับตาม”