ความคืบหน้ากรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปทำสัญญาค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงินร่วมกับบริษัท พรพนา พาณิช จำกัด ให้กับ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ธุรกิจผลิตน้ำมันรำข้าว ในช่วงที่ นายพิธาเป็นกรรมการและดำรงตำแหน่ง Co-Founder & Managing Director ระหว่างวันที่ 5 ตุลาคม 2549 ถึง 6 มีนาคม 2560
ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดพบว่า ผู้ตรวจสอบบัญชีได้ทำหมายเหตุประกอบงบการเงิน บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ในข้อ 10 “คดีความและภาระผูกพัน” ว่า สถาบันการเงินหลายแห่งได้ดำเนินการฟ้องร้องกิจการในฐานะผู้ค้ำประกันให้ร่วมรับผิดในการชำระคืน เงินกู้ยืม เนื่องจากบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ได้ผิดนัดชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงินหลายแห่ง
ทั้งนี้ในระหว่างปี 2565 บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ได้ดำเนินการเจรจาประนีประนอมหนี้สินกับทางธนาคารผู้ให้กู้ และในช่วงต้นปี 2566 ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นได้สนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมให้แก่ทาง บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด เพื่อให้นำเงินดังกล่าวไปใช้คืนแก่ทางธนาคาร ซึ่งบริษัทฯ คาดหมายว่า จะดำเนินการในส่วนของหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับทางสถาบันการเงินแล้วเสร็จภายในปี 2566
สำหรับ บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด มีทุนจดทะเบียน 330 ล้านบาท ประกอบธุรกิจเข้าเป็นหุ้นส่วน ถือหุ้นในบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด โดยบริษัทได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ออล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ราคาทุน 36.49 ล้านบาท
บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด มีผู้ถือหุ้น 3 ราย ประกอบด้วย นายบรรลือ ลิ้มเจริญรัตน์ (อานายพิธา) จำนวน 142,000 หุ้น 47.33 % นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์(น้องชายนายพิธา) จำนวน 102,000 หุ้น 34% และนางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ (มารดานายพิธา) จำนวน 56,000 หุ้น 18.67%
ทั้งนี้ในหมายเหตุงบการเงิน บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ในช่วงที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นกรรมการและบริหารบริษัท ทางผู้ตรวจสอบบัญชีได้ระบุหมายเหตุประกอบงบการเงินในข้อ 11 ระบุว่า “บริษัทมีภาระสินเชื่อ กิจการมีสินเชื่อกับสถาบันการเงิน โดยได้นำที่ดิน อาคาร เครื่องจักร และเงินฝากธนาคารไปเป็นหลักประกันทั้งมีกรรมการ และบริษัท พรพนา พาณิช จำกัด เป็นผู้ค้ำประกัน”
จากข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรารายงานพบว่า ในการยื่นข้อมูลบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ของนายพิธา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 นายพิธาได้ยื่นข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือสัญญาค้ำประกันและหนังสือสัญญาจำนอง ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ วงเงินกว่า 800 ล้านบาท
เมื่อตรวจสอบข้อมูลจาก กองฟื้นฟูกิจการลูกหนี้ กรมบังคับคดี พบว่า ก่อนหน้านี้บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ ได้พยายามแก้ไขปัญหาหนี้ด้วยการยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ 2 ครั้ง แต่บริษัทก็ได้ถอนคำร้องออกไปทั้ง 2 ครั้ง
ครั้งแรก ในปี 2563 บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ธุรกิจผลิตน้ำมันรำข้าว โดยกรรมการของบริษัท 3 ราย(ไม่มีชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) ได้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง หมายเลขคดีดำ 39/2563 ทุนทรัพย์ 527,907,219.35 บาท พร้อมบัญชีรายชื่อเจ้าหนี้ทั้งหมด 21 ราย
จากนั้นศาลได้มีคำสั่งรับคำร้องขอในวันที่ 4 มกราคม 2563 และนัดไต่สวนวันที่ 16 มีนาคม 2564 ต่อมา บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ได้มีการถอนคำร้อง และศาลอนุญาตถอนคำร้องขอฯ และจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ วันที่ 26 ตุลาคม 2564
ครั้งที่ 2 ในปี 2565 บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด โดยกรรมการของบริษัท 3 ราย(ไม่มีชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) ได้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางอีกครั้ง หมายเลขดำที่ 4/2565 ทุนทรัพย์ 331,579,327.90 บาท พร้อมบัญชีรายชื่อเจ้าหนี้ทั้งหมด 9 ราย ซึ่งศาลมีคำสั่งรับคำร้อง ในวันที่ 12 เมษายน 2565 และนัดไต่สวน วันที่ 27 มิถุนายน 2565 แต่บริษัทได้ถอนคำร้องฟื้นฟูกิจการออกไปเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565
แหล่งข่าวจากกรมบังคับคดี ระบุว่า การที่บริษัทในฐานะลูกหนี้ได้ถอนคำร้องฟื้นฟูกิจการทั้ง 2ครั้ง ทำให้บริษัทไม่ได้อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูหรือล้มละลายแต่อย่างใด ซึ่งตามกระบวนการเจ้าหนี้ที่มีสิทธิเรียกร้อง สามารถยื่นฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อเรียกร้องสิทธิได้ตามปกติ
ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2548 โดยนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ บิดาของนายพิธาเป็นกรรมการเพียงคนเดียว ภายใต้ชื่อ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ต่อมาในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด โดยครั้งแรกมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท และได้มีการเพิ่มทุนจดเบียน 3 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2548 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 50 ล้านบาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 95,098,000 บาท และวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 98,039,200 บาท
ผู้ถือหุ้น ออยล์ฟอร์ไลฟ์ ในปัจจุบัน ประกอบด้วย 1. บริษัท โอตะวะ โฮลดิ้งส์ จำกัด สัญชาติสิงคโปร์ 49% 2. บริษัท พรพนา พาณิช 37.23 % 3.นายตุนท์ ลิ้มเจริญรัตน์ 6.88% 4. นายวนป ลิ้มเจริญรัตน์ 6.88%
กรรมการ ออยล์ฟอร์ไลฟ์ ในปัจจุบันประกอบด้วย นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา นายประสพโชค สุขสมบูรณ์ โดยมีกรรมการผู้มีอำนาจลงนามคือ นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ ลงลายมือชื่อ และประทับตราสำคัญของบริษัท
ผลการดำเนินงาน ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 แจ้งว่ามีสินทรัพย์รวม 189,862,430.62 บาท หนี้สินรวม 564,793,791.41 บาท รายได้รวม 106,064,719.91 บาท รายจ่ายรวม 199,024,631.79 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 50,443,347.74 บาท ขาดทุนสุทธิ 143,403,259.62 บาท
ออยล์ฟอร์ไลฟ์ ในช่วง “พิธา”บริหาร
เมื่อปี 2549 หลังจากนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ เสียชีวิต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ได้เข้ามาเป็นกรรมการและบริหารบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ โดยมีชื่อเป็นกรรมการตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2549 ถึง 6 มีนาคม 2560 รวมระยะเวลาประมาณ 10 ปี
หากดูจากผลการดำเนินงานของบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ในช่วงที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เป็นกรรมการและดำรงตำแหน่ง Co-Founder & Managing Director พบว่าในช่วงปี 2549-2555 รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 18.8 ล้านบาทในปี 2550 เป็น 1,045.2 ล้านบาทในปี 2555
ขณะที่รายจ่ายของบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ก็เพิ่มขึ้นจาก 26.5 ล้านบาทในปี 2550 เป็น 1,008.7 ล้านบาท ในปี 2555
ด้านกำไร บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด เพิ่มขึ้นจากขาดทุน 10 ล้านบาทในปี 2550 เป็นมีกำไร 31.9 ล้านบาทในปี 2554 และ 16.3 ล้านบาทในปี 2555 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2556-2560 ผลการดำเนินงานของบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด มีรายได้ลดลงจากรายได้รวม 758.2 ล้านบาท ในปี 2556 ลดลงมาเหลือ 107.5 ล้านบาทในปี 2560
ขณะที่รายจ่ายเมื่อเทียบกับรายได้ก็เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การดำเนินงานมีกำไรลดลง และเริ่มประสบกับภาวะขาดทุนในปี 2559 จำนวน 145.6 ล้านบาท และปี 2560 ขาดทุน 98.98 ล้านบาท
ขณะที่งบดุลของ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวสะท้อนสถานะทางการเงิน พบว่า บริษัทเริ่มประสบปัญหาทางการเงินในปี 2559 มีหนี้สินสูงกว่าสินทรัพย์ 43.14 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 142.1 ล้านบาทในปี 2560