นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับรายงานข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ว่า GDP ภาคเกษตร มีสัดส่วนเพียง 9% ของ GDP ประเทศ เท่านั้น และสถิติการส่งออกของไทย แม้ว่าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังมีสัดส่วนน้อยกว่าสินค้าอุตสาหกรรมอยู่มาก โดยในปี 2566 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมีสัดส่วน 17.3% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 78.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ส่วนที่เหลือ 4.1% เป็นสินค้าแร่และเชื้อเพลิง
ภาพรวม ปี 2566 ไทยส่งออกเป็นมูลค่า 284,561.8 ล้านดอลลาร์ โดยส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นมูลค่า 49,203.1 ล้านดอลลาร์ (1.69 ล้านล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 17.3% ของมูลค่าการส่งออกรวม (สินค้าเกษตร 9.4% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 7.9%) แบ่งเป็นสินค้าเกษตร 26,801.7 ล้านดอลลาร์ (0.92 ล้านล้านบาท) ขยายตัว 0.2% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 22,401.4 ล้านดอลลาร์ (มูลค่า 0.77 ล้านล้านบาท) หดตัว 1.7%
การส่งออกสินค้าเกษตร
สินค้าเกษตรส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ
รวม 5 อันดับแรก มีสัดส่วน 87.7% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด
ขณะที่สินค้าเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก (พิจารณาจากสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 20 อันดับแรก) ได้แก่
ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ
รวม 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 67.5% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด
ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก (พิจารณาจากตลาดที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรสูงที่สุด 20 อันดับแรก) ได้แก่
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร
สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ
รวม 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 61.9% ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมด
สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก (พิจารณาจากสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 20 อันดับแรก)
ตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ
รวม 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 42.2% ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมด
ตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก (พิจารณาจากตลาดที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรสูงสุด 20 อันดับแรก) (1) จีน ขยายตัว 41.6% (2) ฟิลิปปินส์ 22.5% (3) สหราชอาณาจักร 16.1% (4) ไต้หวัน 12.4% และ (5) เกาหลีใต้ 12.1%
สินค้าเกษตรส่งออก 5 อันดับแรก (ผลไม้ ข้าว ไก่ มันสำปะหลัง และยางพารา) มีมูลค่าการส่งออกรวมกัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 87.7% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า ไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าเกษตรเพียงไม่กี่รายการ อีกทั้งมูลค่าส่งออกไปยังตลาดส่งออก 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 67.5% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด
ซึ่งแสดงว่าไทยพึ่งพาตลาดส่งออกหลักเพียงไม่กี่ตลาดเช่นกัน โดยเฉพาะจีนที่มีสัดส่วนสูงถึง 42.0% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด จึงควรสร้างความหลากหลายของสินค้าและตลาดส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาเพียงบางสินค้าและบางตลาดมากเกินไป
นายนภินทร กล่าวว่า การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ และกระจายรายได้สู่เกษตรกรซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ มีสัดส่วนถึง 46% ของประชากรทั่วประเทศ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันสนับสนุนให้เศรษฐกิจภาคเกษตรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการนำผลการวิจัยและเทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับโครงสร้างการส่งออกสินค้าเกษตร อาทิ มุ่งสู่การส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ปรับสินค้าส่งออกให้มีความหลากหลายมากขึ้น และกระจายตลาดส่งออกใหม่ ๆ ควบคู่กับการรักษาตลาดเดิม (สหรัฐฯ จีน และอาเซียน)