วันนี้ (26 มีนาคม 2567) นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน กุมภาพันธ์ 2567 ว่า การส่งออกของไทยมีมูลค่า 23,384 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ส่วนการนำเข้ามูลค่า 23,938 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขาดดุล 554 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ภาพรวม 2 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่า 46,034 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 6.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 การนำเข้า มีมูลค่า 49,346 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 2.9% ดุลการค้า 2 เดือนแรกของปี 2567 ขาดดุล 3,311 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนกุมภาพันธ์ 2567 การส่งออก มีมูลค่า 872,139 ล้านบาท ขยายตัว 12.3% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 865,508 ล้านบาท ขยายตัว 11.7% ดุลการค้า ขาดดุล 29,369 ล้านบาท ภาพรวม 2 เดือนแรกของปี 2567 ส่งออกมีมูลค่า 1,611,719 ล้านบาท ขยายตัว 11.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 การนำเข้า มีมูลค่า 1,747,195 ล้านบาท ขยายตัว 6.9% ดุลการค้า 2 เดือนแรกของปี 2567 ขาดดุล 135,476 ล้านบาท
การส่งออกของไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องตอบรับการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและความเชื่อมั่นด้านการบริโภค สะท่อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อโลกที่อยู่ในระดับขยายตัวต่อเนื่อง การส่งออก ภาคอุตสาหกรรมของไทยยังขยายตัวต่อเนื่องและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
โดยเฉพาะสินค้าอัญมณีและเครื่อวประดับ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หม้อแปลงไฟฟ้า โทรศัพท์ และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ในขณะที่สินค้าเกษตรขยายตัวได้ดีจากข้าวและยางพารา สำหรับวิกฤตการณ์ในทะเลแดงส่งผลกระทบเล็กน้อย โดยส่งออกไปตล่ดยุโรปและซาอุดีอาระเบียยังคงขยายตัว
นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการส่งออกในปี 2567 ว่าการส่งออกไทยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าตามภาวะเงินเฟ้อโลกที่เริ่มชะลอตัว การได้รับอานิสงส์จากมาตรการรักษาความมั่นคงทางด้านอาหารของหลายประเทศ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีความเข้มแข็ง
ขณะที่ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางยังไม่ส่งผลกระทบทางตรงต่อไทยมากนัก โดยกระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามประเด็นสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก อย่างไรก็ตามก็จะพยายามผลักดันให้มูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2567 โตขึ้น 1-2% ซึ่งในจะต้องมีตัวเลขส่งออกเฉลี่ยกว่า 23,000-24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน