"ประมูลข้าว 10 ปี" วุ่น ผลสอบพบเอกชน 3 ราย ขาดคุณสมบัติ

การประมูลข้าว 10 ปี จำนวน 15,000 ตัน ในสต๊อกของรัฐบาล วุ่นหนักเมื่อคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ซื้อข้าว ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่งตั้งตรวจสอบพบว่าผู้เสนอซื้อข้าว จำนวน 3 ราย เป็นผู้ขาดคุณสมบัติผู้เข้าประมูลข้าว คือ

1. บริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด
2. บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด
3. บริษัท เอส. เอส. เอ็ม. อาร์. การเกษตร จำกัด

ล่าสุดนายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการในตำแหน่งรองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.) รักษาการแทนผู้อำนวยการอคส. ได้ทำหนังสือลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ถึงนางสาวสุมาลิ จิตอนุรักษ์ ประธานคณะทำงานรับ – เปิดซองและต่อรองราคาข้าวในสต๊อกของรัฐ ระบุว่า ได้แสวงหาข้อเท็จจริง ข้อมูล และ พยานหลักฐาน แล้วตรวจพบว่ามีข้อมูล หลักฐานและพฤติกรรมที่ทำให้เชื่อได้ว่า ผู้เสนอซื้อข้าว จำนวน 3 ราย เป็นผู้ขาดคุณสมบัติผู้เข้าประมูลข้าว

ประกอบด้วย บริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัดและ บริษัท เอส. เอส. เอ็ม. อาร์. การเกษตร จำกัด มีความสัมพันธ์กับนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ทำ ความเสียหายให้แก่ อคส. และถูก อคส. ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามสัญญารับฝากเก็บรักษา มันเส้น ข้าวสาร และสัญญาจ้างตรวจสอบ และรับผิดชอบคุณภาพข้าว

โดยนิติบุคคลทั้งสาม รายดังกล่าวจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมคุณภาพของมันเส้นและข้าวสาร ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง

อคส.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้เสนอซื้อทั้ง 3 ราย คือ 1. บริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด2. บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด 3. บริษัท เอส. เอส. เอ็ม. อาร์. การเกษตร จำกัด เป็นผู้ขาดคุณสมบัติผู้เสนอซื้อตามข้อ 2 วรรคสอง ตามประกาศองค์การคลังสินค้า เรื่องการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2567

และตามรายงาน ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อฯ ที่ อคส.11500/3 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2567

“ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปครั้งที่ 1/2567 เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ และเป็นการรักษาผลประโยชน์ของรัฐ จึงขอมอบหมายให้ คณะทำงานรับ - เปิดซองและต่อรองราคาข้าวในสต๊อกของรัฐ พิจารณาผู้เสนอซื้อ ที่มีคุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วน และต่อรองราคากับผู้เสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละคลังให้ใกล้เคียงกับผู้เสนอราคาสูงสุดที่เสนอซื้อเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน 2567 โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของราชการเป็นสำคัญ” หนังสือที่ลงนามโดยนายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการในตำแหน่งรองผู้อำนวยการอคส. และรักษาการแทนผู้อำนวยการอคส.ระบุ