แจกเงิน 10000 เฟส2 กูรู้ชี้ ตลาดหุ้นผิดหวัง ไร้มาตรการกระตุ้นใหญ่ช่วงปลายปี

22 พ.ย. 2567 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ย. 2567 | 05:06 น.

กูรูมอง แจกเงิน 10000 เฟส2 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นแค่ให้น้ำเกลือประคองอาการ ไม่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ชี้ตลาดหุ้นผิดหวัง ไร้การกระตุ้นช่วงท้ายปี

หลังจากรัฐบาลได้แถลงมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งมีทั้งมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับผู้มีอายุ 60ปี และมาตรการช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท รวมถึงการพิจารณาออกมาตรการพักชำระหนี้ ในส่วนของดอกเบี้ย เป็นเวลา 3ปี ให้กับลูกหนี้ที่มีสถานะเป็น NPL ไม่เกิน 1ปี

รายการ “เข้าเรื่อง” เผยแพร่ทางยูทูปช่อง “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับมาตรการที่ออกมาครั้งนี้โดย ให้ความเห็นว่ามาตรการนี้เป็นเพียงการให้น้ำเกลือ เพื่อประคองสถานการณ์ ไม่ใช่การฉีดสเตียรอยด์เพื่อให้ลุกขึ้นมาวิ่งได้ เปรียบเหมือนไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง 

เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะทยอยใช้เงินเพื่อการยังชีพมากกว่าการจับจ่ายใช้สอยในคราวเดียว โดยประมาณการว่าเงิน 10,000 บาท อาจจะถูกใช้เป็นค่าอาหารวันละ 200 บาท ซึ่งจะใช้ได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจไทยที่มี GDP ประมาณ 18 ล้านล้านบาทต่อปี วงเงิน 40,000 ล้านบาทถือว่ามีสัดส่วนน้อยมาก แม้รวมกับมาตรการแจกเงินเฟสแรกที่ใช้งบประมาณ 140,000 ล้านบาท รวมเป็นประมาณ 180,000 ล้านบาท ก็ยังมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มากนัก

ส่วนมาตรการพักหนี้ 3ปี ในส่วนของดอกเบี้ยมองว่าเป็นสิ่งจําเป็น เพราะช่วยลูกหนี้ได้หายใจหายคอ และแก้ปัญหาได้มากขึ้น แต่หากจะทําจริงจริงเพื่อทําให้เศรษฐกิจต่อไปได้จำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ เพราะจากที่แถลงคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของหนี้ครัวเรือนในปัจจุบัน สุดท้ายคือมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาทซึ่งถือว่ามีมูลค่าค่อนข้างน้อยในสภาวะปัจจุบัน 

สุดท้ายนายประกิต ได้วิเคราะห์ถึงทิศทางดอกเบี้ยนโยบายว่า กนง.น่าจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายปีนี้ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มีน้ำหนักนัก และเงินเฟ้อประเทศไทยยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ แต่อย่างไรก็ตามมาตรการที่ออกมาอาจทำให้ตลาดหุ้นผิดหวัง เพราะไม่มีมาตรการเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี และคาดว่ารัฐบาลก็อาจจะไปเน้นเรื่องการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนมากกว่า