ปลดล็อกโฆษณาเหล้า-เบียร์ หวั่นกระทบเยาวชนเกิดนักดื่มหน้าใหม่

21 มี.ค. 2568 | 06:26 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2568 | 06:32 น.

ชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารหวั่นปลดล็อกโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ กระทบเยาวชน เข้าถึงได้ง่ายโดยเฉพาะสื่อออนไลน์

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ความเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (พ.ร.บ.) ซึ่งผลการลงมติเป็นเอกฉันท์ 365 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง และงดออกเสียง 0 เสียง โดยการลงมติเพื่อยืนยันให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ โดยมีการแก้ไขปรับปรุงในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีการปลดล็อคข้อจำกัดต่าง ๆ นั้น

เบื้องต้นมองว่า วันนี้รัฐบาลได้ออกมาปลดล็อคข้อจำกัดที่สำคัญ 2 เรื่องคือ การอนุญาตให้ขายสุราในช่วงวันพระใหญ่ 5 วัน โดยจะมีการกำหนดสถานที่และเวลาเพิ่มเติม และการอนุญาตให้โฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงสื่อออนไลน์ได้ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชนผ่านสื่อออนไลน์

ปลดล็อกโฆษณาเหล้า-เบียร์ หวั่นกระทบเยาวชนเกิดนักดื่มหน้าใหม่

อย่างไรก็ดีสิ่งที่กังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการปลดล็อกโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือการเข้าถึงของเยาวชนผ่านสื่อออนไลน์ เพราะการที่โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ได้ อาจทำให้เยาวชนสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เยาวชนตัดสินใจบริโภคแอลกอฮอล์ก่อนวัยอันควร

นอกจากนี้ หากไม่มีการกำหนดข้อกำหนดที่ชัดเจนและรัดกุมเกี่ยวกับการโฆษณา เช่น การกำหนดเวลาในการโฆษณา หรือการจำกัดการเข้าถึงในแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 20 ปี อาจจะทำให้การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์มีผลกระทบต่อเยาวชนและสร้างความเสี่ยงต่อสังคมได้

ทั้งนี้จึงเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณามาตรการที่สามารถควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงข้อมูลในทางที่อาจเป็นอันตรายต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจของพวกเขา

“การแก้ไขและกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ในมาตรา 32 ของร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่อนุญาตให้สามารถโฆษณาได้ ถือเป็นการเปิดช่องทางให้กับธุรกิจและผู้ประกอบการในการเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ธุรกิจร้านอาหารและผู้ผลิตอาจไม่มีช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าในรูปแบบอื่น ๆ อย่างชัดเจน

สรเทพ โรจน์พจนารัช

แต่ก็ยังมีความกังวลในเรื่องการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชนผ่านสื่อออนไลน์ที่อาจจะทำให้เยาวชนสามารถเข้าถึงโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการอนุญาตให้มีการโฆษณาในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือการกำหนดเงื่อนไขในการโฆษณาในสื่อออนไลน์ เช่น การจำกัดการเข้าถึงโฆษณาเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 20 ปี

จะเป็นการช่วยควบคุมไม่ให้เยาวชนเข้าถึงข้อมูลในลักษณะที่อาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ ควรกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ให้รัดกุม เพื่อให้การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์สามารถดำเนินการได้โดยไม่กระทบต่อสังคมในด้านลบ”

นายสรเทพ กล่าวอีกว่าสิ่งที่ผู้ชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารต้องการคือ อยากให้รัฐบาลปลดล็อคการขายสุราหรือแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาบ่าย 2 โมงถึง 5 โมงเย็น สำหรับธุรกิจร้านอาหาร เพื่อให้ร้านอาหารสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลานี้ ซึ่งชมรมมองว่าเป็นช่วงเวลาที่มีผลกระทบน้อยที่สุดต่อเยาวชน เพราะเป็นเวลาที่เด็กนักเรียนยังอยู่ในห้องเรียน และผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็ยังทำงานอยู่

นอกจากนี้ ชมรมยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาการปรับกฎหมายให้ปลดล็อคข้อจำกัดบางประการ เพื่อช่วยกระตุ้นธุรกิจร้านอาหาร และทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นเติบโตได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาที่มีผลกระทบกับสังคมน้อยที่สุด

“การที่รัฐบาลอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น โดยเฉพาะในร้านอาหาร ผลกระทบที่มีต่อเยาวชนในระดับที่ไม่มากนัก เพราะเป็นช่วงเวลาเยาวชนยังเรียนอยู่ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งปลดล็อคการขายสุราในช่วงเวลานี้เพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารสามารถเพิ่มรายได้และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นได้”