ไวไว-ควิกฯเปิดศึกตลาดบะหมี่ ทุ่มงบโหมมิวสิก - สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งดันยอดขายโต 2-3%

ไวไวและควิกแสบ เดินหน้ากลยุทธมิวสิคและสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ทุ่มงบ 400 ล้าน กระตุ้นยอดขายโต 2-3% รักษาแชมป์เบอร์ 2 ของตลาดบะหมี่ที่ครองส่วนแบ่ง 23-24% หลังฟุตบอลยูโรดันยอดโต 15% เตรียมจับกระแสโอลิมปิคต่อ แข่งกับแบรนด์มาม่า ผู้นำตลาด ที่ผนึกททท. รุกตลาดท่องเที่ยว

[caption id="attachment_68825" align="aligncenter" width="335"] ยศสรัล แต้มคงคา
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ไวไว และควิกแสบ[/caption]

นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ไวไว และควิกแสบ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การทำตลาดของทั้ง 2 แบรนด์จะเน้นกลยุทธ์มิวสิคและสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งแบรนด์ไวไวจะเน้นตลาดแมสโดยนอกจากการใช้มิวสิคมาร์เก็ตติ้งที่เน้นเพลงลูกทุ่งแล้ว ยังเน้นการร่วมกิจกรรมที่เป็นวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ด้วย ขณะที่แบรนด์ควิกจะโฟกัสตลาดในเมืองและกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก รวมถึงจะมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

สำหรับงบประมาณการทำตลาดในปีนี้ บริษัทใช้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาด้วยมูลค่า 400 ล้านบาท ซึ่งเน้นการบริหารงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ โดยในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเน้นกิจกรรมการตลาดภายใต้กลยุทธ์สปอร์ตและมิวสิค ล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณ 10 ล้านบาท จัดแคมเปญ "ควิกแสบ..ซ่าปั่นสุดทีน" ให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "ควิกแสบ" ชนิดแพ็ค 10 ซอง หรือ ชนิดกล่อง 30 ซอง (ทุกรสชาติ) สะสมคูปองให้ครบ 4 ชิ้น เป็นรูปรถจักรยาน สามารถนำมาแลกรับ "จักรยานฟิกเกียร์ควิกแสบ รุ่น Limited Edition" จำนวน 1 คัน รวมทั้งสิ้น 500 คัน มูลค่ารางวัลรวม 6 ล้านบาทโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมถึง 30 กันยายนนี้

"สำหรับกิจกรรมครั้งนี้บริษัทคาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโต 3-5% และหากกระแสการตอบรับดี จะมีการต่อยอดแคมเปญ 2 ต่อไป ซึ่งการจัดกิจกรรมการตลาดมีส่วนช่วยให้ยอดขายเติบโต ซึ่งช่วง 6 เดือนแรกทั้งแบรนด์ไวไวและควิกแสบมีอัตราการเติบโต 2-3% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมตลาดด้วย ส่วนช่วงฟุตบอลยูโรที่จัดแข่งขันอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าจะมีส่วนผลักดันให้ยอดขายของบริษัทเติบโต 15% ซึ่งเป็นผลจากการที่มีการแข่งขันฟุตบอล รวมถึงการจัดโปรโมชั่นเสริมของบริษัทด้วย"

ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังที่จะมีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิค บริษัทวางแผนที่จะจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการวางแผน ซึ่งแบรนด์ควิกแสบอาจจะนำเอานักกีฬาจักรยานที่มีชื่อเสียงมาร่วมแคมเปญการตลาดด้วย ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 23-24% จากมูลค่าตลาดในปี 2558 ที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งปีที่ผ่านมายอดขายในช่วง 6 เดือนแรกไม่เติบโตเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจและการขยายตัวของช่องทางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดที่ชะลอตัวลง

โดยก่อนหน้านี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์มาม่า ที่ถือว่าเป็นผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยส่วนแบ่งกว่า 55% ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดแคมเปญ มาม่าลุ้นเที่ยวไทยกับ ททท. ภายใต้โครงการ 12 เมืองต้องห้าม พลาด Plus เพื่อสร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวผ่านมาม่าคัพ ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคมถึง 22 กันยายนนี้ โดยใช้งบประมาณพิเศษ 43 ล้านบาท นอกจากงบประมาณการตลาดประจำปี 250 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างแบรนด์ ขณะเดียวกันยังเตรียมจัดรายการส่งเสริมการขายด้วยการแจกทองคำมูลค่ารวม 30 ล้านบาท การออกสินค้าใหม่ ที่เชื่อว่าในปีนี้จะได้ตามเป้าหมายการเติบโต 6% จากปีที่ผ่านมามียอดขายเกือบ 1 หมื่นล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,172 วันที่ 7 - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559