ท่าเรือสินค้าทัณฑ์บนเมืองชินโจว พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจไปจีน

04 ส.ค. 2559 | 03:46 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2559 | 16:32 น.
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  ได้กล่าวถึงผลการเข้าพบของคณะผู้บริหารเขตท่าเรือสินค้าทัณฑ์บนเมืองชินโจว(Qinzhou FreeTtrade Port Area) นำโดย Mr. Wang  Xionchang รองผู้อำนวยการเขตท่าเรือและคณะ รวม 10 ราย เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า สินค้าไทยหลายประเภทเป็นที่ต้องการของตลาดจีน โดยเฉพาะ อาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและดูแลร่างกาย สินค้าของขวัญของตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์ OTOP และไม้ ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย (SMEs) ที่ประสงค์จะขยายตลาดไปยังจีน ใช้ประโยชน์จากศูนย์จำหน่ายสินค้าโดยตรงจากต่างประเทศ ซึ่งกำลังเปิดรับนักลงทุนและเป็นที่สนใจของนักธุรกิจจากอาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป

สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่เข้ามาจำหน่ายสินค้าในศูนย์ได้แก่ การได้สิทธิในการใช้พื้นที่และจำหน่ายสินค้าออนไลน์ฟรีเป็นเวลา 2 ปี โดยปีถัดไป คิดร้อยละ 5 ของมูลค่าการจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ ทางการจีนจะให้การสนับสนุนด้านการตลาดให้แก่สินค้านำเข้า โดยร่วมมือกับบริษัทร้านค้าออนไลน์และโลจิสติกส์ รวมถึงให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคทางการค้า อาทิ กฎระเบียบการนำเข้า การขอใบอนุญาตต่างๆ พิธีการศุลกากร การหาคู่ค้า การทำตลาด ตลอดจนข้อติดขัดด้านภาษา

เขตท่าเรือสินค้าทัณฑ์บนเมืองชินโจว  เป็นช่องทางสู่ทะเลที่สะดวกที่สุดของภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รวมทั้งเป็นเขตควบคุมบริหารพิเศษทางศุลกากรที่มีความเสรีสูง เป็นที่ตั้งของหน่วยงานย่อยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่วิสาหกิจ อาทิ สำนักงานศุลกากร สำนักงาน CIQ สำนักงานบริหารอุตสาหกรรมและการค้า สำนักงานกิจการภาษี มีระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัย ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ตามนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้ กว่างซี กรอบการพัฒนาภาคตะวันตก ทั้งยังมีระบบคมนาคมขนส่งหลายมิติ (ถนน รถไฟ และเรือ) นอกจากนี้ มีเส้นทางเดินเรือสู่หัวเมืองสำคัญทั้งในและต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง อาเซียน (เวียดนาม ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย) และเอเชียตะวันออก (เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น) และในขณะนี้ กำลังศึกษาความเป็นไปได้  ในการเปิดเส้นทางเดินเรือบรรทุกขนาดกลาง ระหว่างท่าเรือเมืองชินโจว-ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะช่วยร่นระยะเวลาการขนส่งลงได้ถึง 1 ใน 3 จากเดิมที่ต้องใช้เวลาเกือบ 30 วัน ในการขนส่งผ่านสิงคโปร์หรือฮ่องกง

กรมเห็นว่า มณฑลกว่างซีจ้วงซึ่งรัฐบาลจีนกำหนดให้เป็นประตูสู่อาเซียน เป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ส่งออกไทย เนื่องจากมีผู้ประกอบการไม่มาก ทำให้มีโอกาสในการทำตลาดได้ง่ายกว่ามณฑลอื่นๆที่มีการแข่งขันสูง มีเส้นทางถนนที่เชื่อมต่อกับภาคอีสานของไทย (R8 R9 และ R12) เป็นมณฑลที่มีผู้สนใจเรียนภาษาไทยมากที่สุด ดังนั้น การส่งเสริมและสนับสนุน SMEs ไทย ใช้ประโยชน์จากเขตท่าเรือดังกล่าว จะสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยได้เป็นอย่างดี ภาคเอกชนที่สนใจติดต่อได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครหนานหนิง อีเมล์ [email protected] หรือที่ www.ditp.go.th